วันนี้ (5 มิ.ย.57) เวลา 13.30 น. ณ กองบัญชาการกองทัพบก กรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นประธานการประชุมส่วนราชการด้านฝ่ายกิจการพิเศษ ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และส่วนงานขึ้นตรง ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแหงชาติ ซึ่งมี รองหัวหน้า คสช.ฝ่ายต่าง ๆ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยหัวหน้า คสช. ได้มอบนโยบายและแนวทางบริหารราชการ ดังนี้
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฝ่ายกิจการพิเศษ ได้ รายงานว่า งานของฝ่ายกิจการพิเศษ มีภารกิจอยู่ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1.) หน่วยงานประสานงานกิจการภายใต้พระมหากษัตริย์ (สำนักพระราชวัง สำนักราชเลขาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ)
2.) งานนโยบายบริหารงานราชการ (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยและสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
3.) งานสนับสนุนรัฐสภา (สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา)
4.) งานที่เกี่ยวข้องกับประชาชน (กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ราชบัณฑิตยสถานและสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา)
ในโอกาสนี้ ม.ล. ปนัดดา ดิสกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รายงานโดยสรุปถึงภารกิจสำคัญของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งมีงานเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ อาทิ การจัดตั้งสถาบันบริหารธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปที่ขาดแคลนที่ดินทำกินและฐานะยากจนได้มีโอกาสถือครองที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวมทั้งกระจายความเป็นธรรมสู่ประชาชนให้ทั่วถึง ขณะเดียวกัน เร่งรัดจัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อการจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น เป็นไปโดยหลักธรรมาภิบาล นอกจากนี้ยังมีงานการสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านพัฒนาทรัพยากรน้ำ อีกด้วย
สำหรับฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม นั้น หัวหน้า คสช. ได้มอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานว่า กฎหมายใดที่ส่งผลกระทบเกิดความขัดแย้ง ทั้งในส่วนของหน่วยงานรัฐ และภาคประชาชน จะมีการนำไปดำเนินการในระยะที่ 2 ตามนโยบายของ คสช. ทั้งนี้ในระยะแรกหรือระยะเร่งด่วนจะเป็นการแก้ไขปัญหากฎข้อบังคับและกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจการค้าการลงทุน และเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ขณะเดียวกันขอให้มีการเร่งรัดตรวจสอบแก้ไขข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับโครงการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรียังไม่ได้มีการพิจารณา เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นธรรม เกิดประโยชนสูงสุดต่อประเทศชาติ
รวมทั้ง หัวหน้า คสช. เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายปกติทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข ส่วนคดีความทั้งหมดก็ให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม และให้ทุกคนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ ทุกคนต้องได้รับความยุติธรรมและเป็นธรรมอย่างเท่าเทียม อย่างไรก็ตามขอให้ทุกหน่วยงานสร้างองค์กรให้เข้มแข็ง เพื่อให้ได้รับการยอมรับและสร้างเชื่อมั่นให้กับประชาชนและสังคม รวมทั้งให้มีกระบวนการตรวจสอบที่ถูกต้องชัดเจน ส่วนเรื่องที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง หัวหน้า คสช. จะเป็นผู้สั่งการโดยตรงเป็นการเฉพาะต่อไป
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th