คณะรักษาความสงบแห่งชาติเร่งรัดให้ส่วนราชการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ที่คงค้างจ่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

ข่าวทั่วไป Monday June 2, 2014 16:15 —สำนักโฆษก

วันนี้ (2 มิถุนายน 2557) เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สโมสรกองทัพบก (เทเวศร์) พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก และ พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกกองทัพบกร่วมกันแถลงข่าว

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบกกล่าวถึงผลการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง พร้อมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจเพื่อชี้แจงข้อมูลการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน รวมไปถึงแผนการใช้จ่ายงบประมาณของแต่ละกระทรวง โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ซึ่งประธานในการประชุมได้เน้นย้ำให้เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ที่ยังคงค้างการอนุมัติ จากเดิมอยู่ในอำนาจการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี โดยให้แต่ละหน่วยงานรวบรวมแผนงบประมาณให้กับสำนักงบประมาณ และให้นำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาอนุมัติภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อจะได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 และเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการหมุนเวียนการใช้จ่ายต่อไป

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อไปว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประธานการประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพิ่มเติมเรื่องการทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สามารถเข้าถึงการใช้ทรัพยากรได้อย่างทั่วถึง โดยเน้นส่งเสริมให้ดัชนีความสุขแห่งชาติเพิ่มขึ้นจากเดิม ลงในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ด้วย

ด้าน พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกกองทัพบกกล่าวเพิ่มเติมถึงผลการหารือในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าถึงกรณีเรือบรรทุกน้ำมัน “อรพิน 4” ที่ได้ขาดการติดต่อระหว่างออกเดินทางจากสิงคโปร์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เรือดังกล่าวพร้อมลูกเรือคนไทย จำนวน 14 ราย ได้เดินทางกลับมาเทียบท่าที่อ่าวอุดม จังหวัดชลบุรีแล้วอย่างปลอดภัย โดยในเบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าถูกโจรสลัดตัดระบบการสื่อสาร พร้อมจี้ปล้นยึดสินค้า ก่อนจะเหลือน้ำมันไว้ให้เดินทางกลับมาประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ต่อไป พร้อมกันนี้ ประธานการประชุมได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือถึงมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวกับหน่วยงานความมั่นคงของประเทศสิงคโปร์และประเทศอินโดนีเชีย

พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวต่อไปถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกองทัพ เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อให้การช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุอย่างทันท่วงที เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน

สำหรับการทำงานด้านสังคมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวว่า คณะทำงานด้านสังคมได้ประชุมหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยในวันนี้เป็นหารือกับกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องเร่งด่วน เช่น โครงการแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน และโครงการกู้ยืมเพื่อการศึกษา พร้อมกับการปฏิรูประบบการศึกษาของไทย โดยที่ประชุมได้มอบนโยบายเน้นเรื่องการพัฒนาบุคคลากรทางด้านการศึกษา โดยให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของนักเรียนเป็นหลัก ว่าเรียนแล้วได้อะไร เพื่อให้เด็กนักเรียนเหล่านี้เติบโตขึ้นมาเป็นกำลังหลักที่สำคัญ เป็นอนาคตของชาติ และให้เติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพ มีคุณธรรม และศีลธรรม รวมไปถึงการพัฒนาหลักสูตรสายอาชีพที่เน้นย้ำให้เด็กนักเรียนสายอาชีพพัฒนาฝีมือรองรับตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี คสช. มีหนังสือไปถึง นายสราวุฒิ ภูธร ให้มารายงานตัวต่อ คสช. ในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ แต่ปรากฏว่าวันนี้ นายสราวุฒิ ภูธร ได้ใช้อาวุธปืนฆ่าตัวตายตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ทาง คสช. ขอยืนยันว่าการฆ่าตัวตายดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกตัวมารายงานตัว จากการสอบถามไปยังภรรยาของผู้ตายพบว่าผู้ตายมีการอาการป่วยมาหลายปี จึงอาจเป็นสาเหตุของการตัดสินใจฆ่าตัวตาย ทั้งนี้ สำหรับการเรียกบุคคลเข้ามารายงานตัว คสช. มีเจตนารมณ์เพื่อทำความเข้าใจ แลกเปลี่ยน และปรับทัศนคติเพื่อหาทางออกของประเทศร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าบุคคลที่ถูกให้มารายงานตัวเป็นผู้กระทำความผิด

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อไปถึงแผนปรองดองของ คสช. ว่า จะใช้กลไกลของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเป็นกลไกลหลักในการดำเนินการ โดยเริ่มจากครอบครัว หมู่บ้าน และตำบลมาสู่ระดับจังหวัด ภาค และประเทศต่อไป เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติให้ตรงกัน สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นโดยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมกับการทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อนำข้อมูลไปสู่การปฏิบัติขั้นที่ 2 ต่อไป สำหรับแนวทางปฏิรูปประเทศของ คสช. จะเปิดเวทีให้พรรคการเมือง ภาคประชาสังคม ประชาชน นักวิชาการ ผู้มีบทบาททางสังคมได้หารือกัน เพื่อนำข้อมูลมาดำเนินการในระยะที่ 2 ต่อไปเช่นกัน

พ.อ.วินธัย กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติและดำเนินการทางกฎหมายต่อกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย และรวมกลุ่มต่อต้านว่า จะใช้หลักการทำความเข้าใจ การเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต่อต้านก่อน ทั้งนี้ ผู้ที่ก่อความไม่สงบจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ สำหรับกรณีที่ต่างประเทศไม่พอใจต่อการดำเนินการรัฐประหารในประเทศไทย ต้องชี้แจงทำความเข้าใจถึงเหตุผลและความจำเป็นให้มากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยทุกภาคส่วนร่วมกันชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อให้ภาพพจน์ของประเทศไทยดีขึ้น และเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

นราวุธ รายงาน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


แท็ก กองทัพบก  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ