พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาข้อมูลองค์ความรู้ และทรัพยากรบุคคลทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของประเทศในการบ่มเพาะองค์ความรู้ และนักวิจัย รวมถึงมีห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญของประเทศ ได้ริเริ่มสร้างความร่วมมือกันดำเนินโครงการที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของภาครัฐและภาคเอกชน โดยให้มี “ระบบฐานข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ผลงานวิจัย เครื่องมือวิทยาศาสตร์และห้องปฏิบัติการ และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าร่วมใช้บริการ และสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดังกล่าวจากสิ่งที่รัฐได้ลงทุนไปแล้วได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุ้มค่า และได้ประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อพัฒนาผลิตผลต่างๆ ของประเทศด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้สามารถยืนหยัดและแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้ในเวทีโลก
รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการผลักดันให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อนำผลงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปเสริมสร้างความสามารถในการผลิต ซึ่งระบบฐานข้อมูล ระบบนี้เป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยภาครัฐมีความพร้อมเรื่องทรัพยากร เครื่องมือ อุปกรณ์ รวมถึงนักวิจัยที่มีความสามารถในการจัดทำระบบฐานข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นการเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเอสเอ็มอีของไทยได้เข้าถึงข้อมูลต่างๆ จำนวนมากที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ซึ่งลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพสร้างความแตกต่างแก่สินค้า โดยภาคธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา นับเป็นการใช้ทรัพยากรและงบประมาณอย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพอย่างมาก
นอกจากนี้ ความเปลี่ยนแปลงของโลกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมนั้นเกิดขึ้นตลอดเวลา เพื่อก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างพื้นฐานนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การแข่งขันในเวทีโลก ทั้งสมรรถนะทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพของภาครัฐ และขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ
ดร.อัจฉรา วงศ์แสงจันทร์ รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศไทย คือการเข้าถึงข้อมูลและการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เนื่องจากที่ผ่านมา โครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีส่วนใหญ่อยู่ในสถาบันการศึกษา ซึ่งทำให้หน่วยงานวิจัยต่างๆ ของภาคเอกชนยังไม่สามารถเข้าถึงและไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากนัก อีกทั้งข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว ยังมิได้มีการรวบรวมฐานข้อมูลทั้งด้านบุคลากรนักวิชาการ นักวิจัย เครื่องมือและห้องปฏิบัติการแบบครบวงจรไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว
ทั้งนี้ การสร้างฐานข้อมูลดังกล่าว จะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานักวิจัยของภาครัฐและเอกชนให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เห็นภาพรวมของโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับประเทศ และสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายด้านการพัฒนาศักยภาพและกำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการจัดสรรงบประมาณในการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อทดแทน หรือเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับความต้องการและความจำเป็น เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศไทยได้ในเวทีโลกต่อไปในอนาคต
เขียนข่าวโดย : นางสาวนีรนุช ตามศักดิ์
ภาพข่าวและวีดิโอโดย : นางสุนิสา ภาคเพียร นาวงษ์ และ นายไววิทย์ ยอดประสิทธิ์
เผยแพร่ข่าวโดย : นางสาวชลธิชา แสงเทียนสุวรรณ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th