นอกจากนี้ ในการประชุมดังกล่าว นายประภาศ บุญยินดี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้นำข้อสั่งการของนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในเรื่องการขับเคลื่อนการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เร่งดำเนินการโดยมีข้อสั่งการที่สำคัญ ดังนี้ 1. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเป็นพิเศษ เพราะศูนย์ดำรงธรรมตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 96/2557 เป็นศูนย์ดำรงธรรมมิติใหม่ที่เป็นทั้งศูนย์บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ (OneStop Service) ศูนย์บริการส่ง-ต่อ (Service Link) ศูนย์การแก้ไขปัญหาร้องเรียนร้องทุกข์ ศูนย์บริการให้คำปรึกษา บริการข้อมูลต่างๆ ให้กับประชาชน และเป็นศูนย์สั่งการตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญและกล่าวถึงศูนย์ดำรงธรรมในทุกโอกาสของการจัดกิจกรรม/รายการของ คสช. ดังนั้น
จึงต้องเร่งรัดดำเนินการในทุกๆ ด้านให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 2. การจัดหาสถานที่ตั้งศูนย์ดำรงธรรมต้องให้เหมาะสม และสะดวกต่อประชาชนที่จะเข้ามารับบริการ 3. การคัดเลือกเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานต้องเป็นผู้ที่มีบุคคลลักษณะดี มีจิตใจให้บริการ มีทักษะ มีองค์ความรู้เหมาะสมกับภารกิจที่หลากหลาย 4. ต้องประชาสัมพันธ์รณรงค์ชี้แจงบทบาทภารกิจของศูนย์ดำรงธรรมให้หน่วยงานราชการในพื้นที่ร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจ และเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและเข้ามารับบริการจากศูนย์ดำรงธรรมโดยใช้ช่องทางการสื่อสารทุกรูปแบบ. 5. การเชื่อมต่อ webpage ให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เชื่อมกับศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย 6. ต้องมีการบันทึกข้อมูลการร้องเรียนร้องทุกข์ลงในระบบฐานข้อมูลของศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย เพื่อติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และแจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจและประทับใจในการรับบริการ 7. ให้รายงานผลการปฏิบัติงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้กระทรวงมหาดไทยทราบ ทั้งนี้ ในระยะต่อไปจะมีการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลสารสนเทศ กับสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีสามารถติดตามตรวจสอบการดำเนินการของจังหวัดได้โดยตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงต้องเตรียมการในเรื่องนี้ด้วย 8. ภายในวันศุกร์นี้ (22 ส.ค.57) ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยจะโอนหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1567 ให้กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรปฏิบัติงานรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ณ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ตลอด 24 ชั่วโมง 9. ให้จังหวัดจัดทำแผนงานที่จะพัฒนาประสิทธิภาพและขยายขอบเขตการให้บริการประชาชนให้ดีขึ้นตามลำดับรวมทั้งการขยายบริการ One Stop Service และ Service Link และชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วเพื่อแก้ไขปัญหาในกรณีมีเหตุฉุกเฉินด้วย และ 10. ให้จังหวัดสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ประจำเขตตรวจราชการ ออกตรวจติดตามการดำเนินของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และให้รายงานผลการดำเนินงานภายในวันศุกร์นี้จึงขอให้จังหวัดเตรียมข้อมูลในการตรวจติดตามฯ ด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th