ปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประเทศไทยกำลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(ASEAN Economic Community หรือ AEC) ในปลายปี 2558 แต่มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงบางกรณีที่นักท่องเที่ยวตกเป็นจำเลยในคดีอาญา ดังนั้น สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาระบบงานยุติธรรมและกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของนักท่องเที่ยว หนึ่งในสาระสำคัญของบันทึกข้อตกลงดังกล่าว คือ การประสานความร่วมมือปฏิบัติงานด้านต่างๆ เช่น การจัดหาและอบรมล่ามภาษาต่างประเทศหรือจัดการหาผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักแก้ไขปัญหาการหลวงลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตระหนักถึงการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการรองรับงานล่ามแปล เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จึงได้จัดทำโครงการฝึกอบรมล่ามแปลสำหรับระบบงานยุติธรรมและกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธินักท่องเที่ยว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลากรในการปฏิบัติหน้าที่ล่ามแปลในกระบวนการยุติธรรมให้มีศักยภาพในการใช้ภาษาอังกฤษทางกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรมีคุณวุฒิและจริยธรรม ในการปฏิบัติหน้าที่ล่ามแปลช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในกระบวนการยุติธรรม โดยมีเนื้อหาหลักสูตรการอบรมประกอบด้วย วิชาระบบศาลไทย, วิชาภาษาอังกฤษที่จำเป็นสำหรับนักกฎหมาย, วิชาภาษาอังกฤษกฎหมาย, วิชาเทคนิคการเป็นล่าม, วิชาความรู้เกี่ยวกับกระบวนวิธีพิจารณาในศาล, และการแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th