นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกรกฎาคม 2557ว่า“เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2557 เริ่มมีสัญญาณปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในส่วนของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน โดยมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมสำหรับอุปสงค์จากต่างประเทศพบว่า มูลค่าส่งออกหักสินค้าในหมวดทองคำขยายตัวได้เล็กน้อย แม้การส่งออกสินค้าโดยรวมกลับมาหดตัวอีกครั้ง ส่วนเสถียรภาพของเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกยังคงแข็งแกร่ง”ทั้งนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจไทยล่าสุดในรายละเอียดพบว่า
การบริโภคภาคเอกชนในเดือนกรกฎาคม 2557 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนได้จากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนกรกฎาคม ที่ขยายตัวร้อยละ 3.6 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลพบว่า ขยายตัวร้อยละ 3.3 ต่อเดือนอีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมได้ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 68.5 และเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนเนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น ตามสถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลายลงอย่างไรก็ตามการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนยังคงหดตัว สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งที่หดตัวร้อยละ-37.5 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล หดตัวร้อยละ -7.5ต่อเดือน
การลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร ซึ่งสะท้อนได้จากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวได้ร้อยละ 5.5 ต่อปี อย่างไรก็ตาม ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ยังคงหดตัวร้อยละ -21.5 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลพบว่า หดตัวเช่นกันที่ร้อยละ -2.1 ต่อเดือน สำหรับการลงทุนในหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์พบว่า หดตัวร้อยละ -11.1 ต่อปี แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลพบว่า ขยายตัวร้อยละ 5.0 ต่อเดือน ขณะที่ยอดขายปูนซิเมนต์หดตัวร้อยละ-0.4 ต่อปี อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลพบว่า ขยายตัวร้อยละ 0.5 ต่อเดือน
สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐมีอัตราเร่งขึ้น โดยพิจารณาจากการเบิกจ่ายงบประมาณในเดือนกรกฎาคม 2557 ซึ่งรัฐบาลสามารถเบิกจ่ายงบประมาณรวมได้จำนวน 200.2 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.0 ต่อปีเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -1.1 ต่อปี สะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภาครัฐภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ
ด้านอุปสงค์ต่างประเทศกลับมาหดตัวอีกครั้งสะท้อนจากการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือนกรกฎาคม 2557มีมูลค่า 18.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหดตัวที่ร้อยละ -0.9 ต่อปี อย่างไรก็ดีเมื่อนำมูลค่าส่งออกหักสินค้าในหมวดทองคำพบว่า ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ต่อปีโดยในเดือนกรกฎาคม 2557 มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศ CLMV ขณะที่สินค้าส่งออกที่มีการขยายตัวดี ได้แก่ สินค้าในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และอุตสาหกรรมการเกษตร เป็นสำคัญ สำหรับสินค้าส่งออกที่หดตัวลง ได้แก่ สินค้าในหมวดแร่และเชื้อเพลิง เป็นสำคัญ
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ชี้แจงข้อมูลเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติมว่า สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานมีสัญญาณดีขึ้นจากภาคเกษตรกรรม โดยการผลิตในภาคเกษตรกรรมสะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือนกรกฎาคม 2557 พบว่าขยายตัวร้อยละ 4.3 ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.6 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตในหมวดยางพารา และมันสำปะหลัง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลายลง ทำให้ผลผลิตออกมาเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับผลผลิตในหมวดปศุสัตว์โดยเฉพาะสุกรและไก่เนื้อ ที่ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่องและไม่มีรายงานสถานการณ์โรคระบาด อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคม 2557 ปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ระดับ 89.7 ซึ่งเป็นผลมาจากผู้ประกอบการมีระดับความเชื่อมั่นมากขึ้นจากสถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลายประกอบกับการดำเนินกิจการมีทิศทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs เป็นสำคัญ สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการที่สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม 2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.92 ล้านคน ซึ่งหดตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ -10.9 ต่อปี หรือขยายตัวร้อยละ 13.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลโดยเป็นนักท่องเที่ยวในกลุ่มภูมิภาคตะวันออกกลาง อาเซียน และแอฟริกา ที่กลับมาขยายตัวได้ดี
ด้านเสถียรภาพในประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่เสถียรภาพต่างประเทศยังคงแข็งแกร่งโดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.2ต่อปี ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ โดยอยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวม สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศที่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งนั้น สะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงที่ 169.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.7 เท่า สามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้
รายละเอียดเพิ่มเติมปรากฏตามเอกสารแนบ
เอกสารแนบ
รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกรกฎาคม 2557
“เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2557 มีสัญญาณปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยการใช้จ่ายภาคเอกชนและการใช้จ่ายรัฐบาลที่เร่งตัวขึ้นหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ขณะที่มูลค่าสินค้าส่งออกหักทองคำขยายตัวได้เล็กน้อย แม้การส่งออกสินค้าโดยรวมกลับมาหดตัว อีกครั้ง ส่วนเสถียรภาพของเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกยังคงแข็งแกร่ง”
1. การบริโภคภาคเอกชนในเดือนกรกฎาคม 2557 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าสะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนกรกฎาคม 2557 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.6 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 3.3 ต่อเดือน ตามการปรับตัวดีขึ้นของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บบนฐานการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวร้อยละ 6.8 ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า และสอดคล้องกับภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บบนฐานการนำเข้าที่หดตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ -0.1 อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนกรกฎาคม 2557 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 68.5 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น ตามสถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลายลง ส่งผลให้การดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลเริ่มมีความชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ดี ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือนกรกฎาคม 2557 หดตัวที่ร้อยละ -8.3 ต่อปี ตามการหดตัวที่ลดลงจากยอดขายรถจักรยานยนต์ทั้งในภูมิภาคและกทม. แต่เมื่อขจัดผลทางฤดูกาลแล้วพบว่าขยายตัวได้ร้อยละ 10.0 ต่อเดือน ส่วนปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนกรกฎาคม 2557 ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -37.5 ต่อปี สะท้อนถึงการหดตัวของการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในเดือนกรกฎาคม 2557 หดตัวที่ร้อยละ -3.3 ต่อปี
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน 2556 2556 2557 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 มิ.ย. ก.ค. YTD ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ (%yoy) -0.7 6.8 -0.3 -7.3 -1.0 -0.1 0.3 -0.2 3.6 0.5 %qoq_SA / %mom_SA -2.0 -3.2 -0.9 5.5 -3.2 -2.1 -2.1 3.3 - ปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (%yoy) 4.4 4.6 7.7 6.2 -0.2 -3.9 0.4 1.0 -3.3 -2.0 %qoq_SA / %mom_SA -4.2 -1.1 -1.3 6.7 -7.9 3.8 2.3 0.0 - ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%yoy) -6.1 97.2 -3.3 -24.8 -39.7 -55.3 -37.7 -33.7 -37.5 -46.6 %qoq_SA / %mom_SA -3.3 -27.3 -2.8 -11.0 -25.6 0.2 8.8 -7.5 - ปริมาณการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ (%yoy) -6.0 5.4 -6.2 -8.7 -20.8 -20.8 -18.2 -15.6 -8.3 -17.9 %qoq_SA / %mom_SA -2.0 -4.9 -3.7 -8.2 -7.9 -3.4 -3.2 10.0 - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค 70.2 73.8 72.8 69.3 64.9 59.9 61.2 65.3 68.5 61.7
2. การลงทุนภาคเอกชนทั้งการลงทุนในหมวดก่อสร้าง และหมวดเครื่องจักรส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าสำหรับดัชนีชี้วัดการลงทุนในหมวดก่อสร้าง แม้ว่าภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเดือนกรกฎาคม 2557 หดที่ร้อยละ -11.1 ต่อปีแต่เมื่อขจัดผลทางฤดูกาลแล้วพบว่า ขยายตัวร้อยละ 5.0 ต่อเดือน ขณะที่ยอดขายปูนซิเมนต์หดตัวร้อยละ -0.4 ต่อปี อย่างไรก็ดี เมื่อขจัดผลทางฤดูกาลแล้วพบว่า ขยายตัวร้อยละ 0.5 ต่อเดือน สำหรับการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรสะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในเดือนกรกฎาคม 2557 พบว่า กลับมาขยายตัวเป็นบวกในรอบ 15 เดือน จากการนำเข้าเครื่องบินพาณิชย์จำนวน 6 ลำ โดยขยายตัวร้อยละ 5.5 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกพบว่า ขยายตัวร้อยละ 15.9 ต่อเดือน ส่วนปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือนกรกฎาคม 2557 หดตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ -21.5 ต่อปี
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน 2556 2556 2557 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 มิ.ย. ก.ค. YTD
เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง
ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ (%yoy) 17.9 35.2 11.0 22.0 9.1 -5.6 -6.8 -11.8 -11.1 -7.0 %qoq_SA / %mom_SA -1.5 -1.4 8.2 4.0 -13.3 -3.9 -8.2 5.0 - ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%yoy) 8.3 15.9 14.6 3.0 0.3 -2.4 -3.0 -4.2 -0.4 -2.4 %qoq_SA / %mom_SA -0.6 1.3 -1.3 1.0 -2.2 0.7 -3.1 0.5 -
เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%yoy) -8.4 19.4 3.2 -26.2 -24.1 -36.6 -30.6 -27.5 -21.5 -32.4 %qoq_SA / %mom_SA -3.1 -7.6 -14.2 -0.9 -16.3 -2.8 -1.7 -2.1 - ปริมาณนำเข้าสินค้าทุน (%yoy) -5.9 3.7 -1.5 -7.9 -16.6 -14.1 -12.6 -4.7 5.5 -10.6 %qoq_SA / %mom_SA -9.8 -0.8 -4.7 -2.3 -7.0 0.7 5.5 15.9 - ปริมาณนำเข้าสินค้าทุนหักเครื่องบิน เรือและรถไฟ (%yoy) -10.2 -0.7 -11.2 -10.0 -18.0 -11.4 -4.4 -3.3 -8.0 -8.0 %qoq_SA / %mom_SA -8.3 -5.6 -0.8 -4.5 -1.0 1.8 -0.4 -0.2 -
3. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจไทยด้านการคลังในกรกฎาคม 2557 พบว่า รัฐบาลสามารถเบิกจ่ายงบประมาณรวมได้จำนวน 200.2 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.0 ต่อปี โดยรายจ่ายงบประมาณปีปัจจุบันสามารถเบิกจ่ายได้จำนวน189.4 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 19.6 ต่อปี แบ่งออกเป็น (1) รายจ่ายประจำ 170.1 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 23.4 ต่อปี (2) รายจ่ายลงทุน 19.4 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -6.0 ต่อปี ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 เบิกจ่ายได้ 1,909.5 พันล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 75.6 ของกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 (2,525.0 พันล้านบาท) ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) ในเดือนกรกฎาคม 2557 ได้จำนวน 130.1 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -0.4 ต่อปีโดยมีรายการสำคัญ ได้แก่ (1) ภาษีฐานรายได้ หดตัวร้อยละ -0.6 ต่อปีเนื่องจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้ลดลงร้อยละ -5.3 ต่อปี จากผลกระทบของการปรับลดอัตราภาษี และ (2) ภาษีฐานบริโภค (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) ขยายตัวร้อยละ 5.7 ต่อปี ทั้งนี้ รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ (หลังหักจัดสรรให้ อปท.) ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 ได้จำนวน 1,678.6 พันล้านบาทหดตัวร้อยละ -4.1 ต่อปี และต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ -132.2 พันล้านบาท หรือร้อยละ -7.3 สำหรับดุลเงินงบประมาณ ขาดดุล -71.0 พันล้านบาท และทำให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 ดุลเงินงบประมาณขาดดุลจำนวน -416.5 พันล้านบาท
เครื่องชี้ภาคการคลัง
(พันล้านบาท) FY2556 FY2556 FY2557
Q1/
FY56 Q2/
FY56 Q3/
FY56 Q4/
FY56 Q1/
FY57 Q2/
FY57 Q3/
FY57 มิ.ย. ก.ค. YTD
รายได้สุทธิของรัฐบาล
(หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) 2,161.3 508.5 469.6 641.9 537.5 503.4 437.3 607.8 192.9 130.1 1,678.6 (%y-o-y) 9.4 27.6 13.7 3.4 -1.2 -1.0 -6.9 -5.3 5.4 -0.4 -4.1 รายจ่ายรัฐบาลรวม 2,402.5 785.9 585.7 482.0 548.9 831.1 553.0 514.7 164.6 200.2 2,099.0 (%y-o-y) 4.7 60.5 -24.9 4.8 -3.0 5.7 -5.6 6.8 -1.1 17.0 3.7 ดุลเงินงบประมาณ -239.0 -283.6 -109.1 165.1 -11.4 -334.7 -115.8 105.0 159.4 -71.0 -416.5
4.ด้านอุปสงค์ต่างประเทศ สะท้อนจากการส่งออกสินค้าของไทยในเดือนกรกฎาคม 2557 กลับมาหดตัวอีกครั้งโดยมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า 18.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ -0.9 ต่อปีอย่างไรก็ดี เมื่อนำมูลค่าส่งออกหักสินค้าในหมวดทองคำแล้วพบว่า ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ต่อปี โดยในเดือนกรกฎาคม 2557 มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศ CLMV ขณะที่สินค้าส่งออกที่มีการขยายตัวดี ได้แก่ สินค้าในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และอุตสาหกรรมการเกษตร เป็นสำคัญ ส่วนสินค้าส่งออกที่หดตัวลง ได้แก่ สินค้าในหมวดแร่และเชื้อเพลิง เป็นสำคัญ สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือนกรกฎาคม 2557 มีมูลค่าอยู่ที่ 20.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ -2.9 ต่อปี ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐที่ต่ำกว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐทำให้ดุลการค้าระหว่างประเทศในเดือนกรกฎาคม 2557 ขาดดุลที่ -1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ประเทศคู่ค้าหลัก 16 ประเทศ
(สัดส่วนการส่งออกปี 55 >>ปี 56 ) 2556 2556 2557 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 มิ.ย. ก.ค. YTD ส่งออกไปทั้งโลก (%yoy) -0.3 3.9 -2.2 -1.7 -1.0 -1.0 0.3 3.9 -0.9 -0.4 %qoq_SA / %mom_SA - -1.3 -2.8 1.7 1.7 -1.4 -0.8 2.6 -2.8 - 1.จีน (11.7%>>>11.9%) 1.4 7.3 -13.4 -0.3 12.9 -4.4 -4.2 3.2 -1.7 -4.0 2.สหรัฐฯ (9.9%>>>10%) 0.8 0.8 -3.5 0.7 5.2 0.6 4.9 11.2 4.5 3.0 3.ญี่ปุ่น (10.2%>>>9.7%) -5.2 1.5 -6.3 -10.1 -5.5 2.0 -4.9 -0.1 3.3 -0.8 4.สหภาพยุโรป (8.5%>>>8.8%) 2.7 7.0 -5.3 3.3 6.3 4.8 11.0 15.4 7.3 7.8 5.ฮ่องกง (5.7%>>>5.8%) 0.7 11.2 7.7 -1.4 -12.0 -1.8 1.7 6.4 -13.2 -2.0 6.มาเลเซีย (5.4%>>>5.7%) 4.7 -0.8 5.8 12.4 2.0 -0.1 -0.1 1.8 0.1 -0.1 PS.อาเซียน-9 (24.6%>>>26.0%) 5.0 5.9 2.4 10.8 1.2 -5.4 0.2 2.3 -5.2 -2.9 PS.อาเซียน-5 (17.2%>>>17.6%) 2.0 5.4 -0.7 11.2 -7.1 -11.0 -3.7 0.0 -11.5 -7.9 PS.อินโดจีน-4 (7.4%>>>8.3%) 11.8 7.0 9.9 10.0 20.3 7.1 8.8 7.7 9.3 8.2
5. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานมีสัญญาณดีขึ้นจากภาคเกษตรกรรม โดยการผลิตในภาคเกษตรกรรมสะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือนกรกฎาคม 2557 พบว่าขยายตัวร้อยละ 4.3 ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.6 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตในหมวดพืชผลสำคัญ โดยเฉพาะผลผลิตยางพารา และมันสำปะหลังที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลายลง ทำให้ผลผลิตออกมาเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสุกรและไก่เนื้อ จากความต้องการที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องและไม่มีรายงานสถานการณ์โรคระบาด อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคม 2557 ปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ระดับ 89.7 ซึ่งเป็นผลมาจากผู้ประกอบการมีระดับความเชื่อมั่นมากขึ้นจากสถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลายประกอบกับการดำเนินกิจการมีทิศทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs รวมทั้งความตื่นตัวด้านการค้าชายแดน และการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นสำคัญ สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการที่สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม 2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.92 ล้านคน ซึ่งหดตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ -10.9 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลแล้วพบว่า ขยายตัวร้อยละ 13.0 ต่อเดือน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การเมืองไทยที่มีเสถียรภาพ และมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ โดยเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มภูมิภาคตะวันออกกลาง อาเซียน และแอฟริกา ที่กลับมาขยายตัวได้ดี ขณะที่นักท่องเที่ยวภาพรวมในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ยุโรป และกลุ่มอื่นๆ ยังคงมีการหดตัว
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน 2556 2556 2557 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 มิ.ย. ก.ค. YTD ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม* (%yoy) -3.2 2.9 -4.9 -3.5 -7.1 -7.1 -5.0 -6.6 n.a. -6.1 %qoq_SA / %mom_SA -2.9 -5.4 -1.4 3.4 -3.4 -3.4 -2.7 n.a. - นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%yoy) 18.8 22.1 24.3 21.4 9.3 -7.9 -13.0 -24.4 -10.9 -10.5 %qoq_SA / %mom_SA - 4.4 6.4 1.0 -2.2 -11.8 -0.4 -11.0 13.0 - ดัชนีผลผลิตเกษตรกรรม (%yoy) -1.8 -2.7 -3.6 -8.2 4.1 1.9 2.3 -0.6 4.3 2.4 %qoq_SA / %mom_SA -0.4 -3.2 -0.2 5.4 4.4 4.3 1.2 -0.2 -
6. ด้านเสถียรภาพในประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่เสถียรภาพต่างประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2557 ขยายตัวร้อยละ 2.2 ต่อปี ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 2.4 จากมาตรการดูแลค่าครองชีพ ประกอบกับสภาพอากาศที่เหมาะสมทำให้ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ราคาพืชผักผลไม้ลดลงขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.8 ต่อปี สำหรับอัตราการว่างงานในเดือนกรกฎาคม 2557 อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวม หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 3.78 แสนคน ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ล่าสุด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 อยู่ที่ร้อยละ 46.6 ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60.0 สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2557 อยู่ในระดับสูงที่ 169.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.7 เท่า
เครื่องชี้เสถียรภาพเศรษฐกิจ 2556 2556 2557 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 มิ.ย. ก.ค. YTD
ภายในประเทศ
เงินเฟ้อทั่วไป (%yoy) 2.2 3.1 2.3 1.7 1.7 2.0 2.5 2.4 2.2 2.2 เงินเฟ้อพื้นฐาน (%yoy) 1.0 1.5 1.0 0.5 0.8 1.2 1.7 1.7 1.8 1.5 อัตราการว่างงาน (yoy%) 0.7 0.7 0.7 0.8 0.6 0.9 1.0 1.1 1.0 1.0 หนี้สาธารณะ/GDP 45.7 44.2 44.5 45.5 45.7 46.5 46.6 46.6 n.a. 46.6
ภายนอกประเทศ
ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้าน $) -2.8 0.5 -6.7 0.8 2.9 8.2 0.5 1.8 n.a. 8.8 ทุนสำรองทางการ (พันล้าน $) 167.2 177.8 170.8 172.3 167.2 167.5 168.2 168.2 169.4 169.4 ฐานะสุทธิ Forward (พันล้าน $) 23.0 23.7 23.7 21.2 23.0 23.6 23.7 23.7 22.6 22.6
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th