นับจนถึงวันที่ 22 สิงหาคมฯ ที่ผ่านมา คณะกรรมการสรรหาจังหวัดต่างๆ ได้คัดเลือกสมาชิกสภาท้องถิ่นตามนัยของประกาศ คสช. ฉบับดังกล่าวอย่างรอบคอบโดยพิจารณาทั้งในเรื่องของวัยวุฒิ คุณวุฒิ และประสบการณ์เรียบร้อยแล้ว จำนวน 44 จังหวัด 81 อปท. ประกอบด้วยเทศบาลเมือง 2 แห่ง เทศบาลตำบล 75 แห่ง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 4 แห่ง รวมสมาชิก อปท. จากการสรรหา 956 คน จำแนกเป็นเพศชาย 804 คน เพศหญิง 152 คน ส่วนใหญ่อายุอยู่ในช่วง 56-65 ปี รองลงมาคือ 46-55 ปี สำเร็จการศึกษาปริญญาโท 594 คน รองลงมาคือปริญญาตรี 341 คน ปริญญาเอก 21 คน ในจำนวนนี้เป็นข้าราชการจำนวน 696 คน โดยส่วนใหญ่คือ 382 คน เป็นข้าราชการครูในพื้นที่ซึ่งใกล้ชิดกับประชาชน รองลงมาคือข้าราชการฝ่ายปกครอง 84 คน สาธารณสุข 73 คน ที่เหลือกระจายกันไปหลายหน่วยงาน เช่น ตำรวจ ทหาร อัยการฯ รวมทั้งผู้ที่ทำงานในภาคเอกชนและประชาชนทั่วไป โดยครอบคลุมทั้งผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านการบริหารงานท้องถิ่น การคลังท้องถิ่น การศึกษาท้องถิ่น การอนามัยและสาธารณสุข กฎหมาย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น โยธาธิการ ผังเมือง หรือโครงสร้างพื้นฐาน ตามที่ระบุไว้ในประกาศ คสช.ฯ
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อไปว่า ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่และมีความใกล้ชิดกับประชาชน สามารถพบปะ เยี่ยมเยือน สอบถามปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างสม่ำเสมอ จึงมีความพร้อมที่จะนำปัญหาและความต้องการของประชาชนมากำหนดเป็นกรอบแนวทางและนโยบายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้ตามความต้องการของประชาชน นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทยจะได้จัดให้มีการอบรมเสริมสร้างศักยภาพและความรู้ให้กับสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการสรรหาในครั้งนี้ ในช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม 2557 จำนวน 4 รุ่น ซึ่งรุ่นแรกจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 5 กันยายน 2557 ณ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดและมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงาน อาทิเช่น สตง. ป.ป.ช. ประธานสภา อปท. ที่มีผลงานดีเด่นมาเป็นวิทยากร จึงมั่นใจได้ว่าสมาชิก อปท.ที่มาจากการสรรหาจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับที่จะสร้างความพึงพอใจให้ประชาชนได้ อย่างไรก็ดีการสรรหาก็เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว ในสถานการณ์พิเศษเพื่อให้การบริหารงานดูแลจัดทำบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อเนื่องไม่ชะงักงัน ส่วนในอนาคตรูปแบบการปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นอย่างไรคงขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสภาปฏิรูปแห่งชาติ สำหรับกระทรวงมหาดไทย ย่อมมีภารกิจหลักในการส่งเสริมสนับสนุนการปกครองท้องถิ่นอยู่แล้ว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th