วันนี้ (10 กันยายน 2557) นายประสงค์ พูนธเนศ
อธิบดีกรมสรรพากร ได้แถลงข่าวการตรวจค้นกลุ่มผู้ประกอบ
การส่งออกคอมพิวเตอร์ที่ต้องสงสัยว่าทุจริตใน
การส่งออก ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า มีการกระทำการร่วมกันเป็นขบวนการเป็นนิติบุคคลกว่า 50 ราย โดยร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ส่งออกคอมพิวเตอร์ เพื่อขอคืน
ภาษีมูลค่าเพิ่ม มีการทำธุรกรรมทางการเงินโดยการโอนเงินเข้าและโอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคารโดยการหมุนเวียนเงินจากผู้ประกอบการในกลุ่มผู้ส่งออกคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างพยานหลักฐานให้เชื่อว่า มีการรับชำระเงินและการจ่ายชำระเงินค่าสินค้ากันจริง มีการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อทำการทุจริตขอคืน
ภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 โดยกรมสรรพากรได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกรมสรรพากรในต่างประเทศตามหลักฐานใบขนสินค้าขาออกของกรมศุลกากร และสรรพากรในต่างประเทศได้ยืนยันว่าไม่พบข้อมูลบริษัทที่เป็นผู้ซื้อ อีกทั้งได้รับข้อมูลจากกรมศุลกากรว่ากลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว มีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าทุจริต
การส่งออกโดยสำแดงสินค้าไม่ตรงตามใบขนสินค้า ขาออก และมีการยื่นแบบแสดงรายการ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ขอคืน
ภาษีมูลค่าเพิ่มจาก
การส่งออก ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ทางราชการ ณ ขณะนี้เป็นเงินกว่าจำนวน 600 ล้านบาท
ผลการตรวจค้นทั้ง 12 จุด พบหลักฐานทางการเงิน ใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการกระทำความผิด รวมทั้งตรวจพบหลักฐานเอกสารที่เชื่อมโยงไปถึงตัวการและผู้ร่วมขบวนการจำนวนมาก ซึ่งกรมสรรพากรจะทำการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับความผิดข้อหาออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย เป็นความผิดตา มาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร และผู้ประกอบการโดยเจตนานำใบกำกับภาษีปลอม หรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี เป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (7) แห่งประมวลรัษฎากร มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท
กรมสรรพากร เต็มที่ เต็มใจ ให้ประชาชน
ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง กรมสรรพากร
เลขที่ 90 ถนนพหลโยธิน 7 พญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0 2617 3320-21 โทรสาร 0 2617 3324 หรือ RD Call Center 1161
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th