นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นและข้อเรียกร้องจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ จ.ชัยนาท และสุพรรณบุรี พร้อมด้วย พลเอกฉัตรชัย สาลิกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์จะทำงานร่วมกันมากยิ่งขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าข้าวที่ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศอีกมาก ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตพร้อมกับเพิ่มมูลค่าของผลผลิตเน้นสินค้าเกษตรอินทรีย์ ให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองมากยิ่งขึ้นจนสามารถดำรงชีพได้อย่างเหมาะสม เช่น การทำปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เพื่อลดค่าปุ๋ยที่มีราคาค่อนข้างสูงตามท้องตลาด ที่เป็นการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มกำไรให้เกษตรกร ตามรอยทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แต่ทั้งนี้สิ่งที่จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้อย่างมั่นคง คือ การผลิตข้าวที่มีคุณภาพ ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ การนำเทคโนโลยีการผลิตข้าวแบบปราณีตมาปรับใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น ไม่รีบเก็บเกี่ยวจนข้าวมีความชื้นสูงทำให้เกษตรกรขายข้าวไม่ได้ราคา
สำหรับในส่วนของการสนับสนุนตามข้อร้องเรียนที่เกษตรกรได้เสนอมานั้น กระทรวงเกษตรฯ พร้อมจะรับไปดำเนินการแก้ไขปัญหาและประสานกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ 1. ต้นทุนในเรื่องค่าไฟฟ้าในการสูบน้ำที่เกษตรกรต้องจ่ายส่วนหนึ่ง ก็จะไปพิจารณาร่วมกับผู้เกี่ยวข้องว่าจะมีการปรับปรุงหรือรัฐจะให้การสนับสนุนอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรลดลง 2. การรับรองฟาร์ม GAP ที่ยังไม่ครอบคลุมในทุกพื้นที่ของเกษตรกร 3. การกำกับดูแลปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ทั้ง ปุ๋ย สารเคมีทางการเกษตร เมล็ดพันธ์ข้าวที่มีคุณภาพ
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีอีกหลายประเด็นปัญหาที่กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์พร้อมจะดำเนินการร่วมกัน ซึ่งจะมีการรับฟังข้อเสนอแนะของเกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ รวมถึงพบปะพูดคุยกับผู้นำหรือผู้แทนชาวนาจากกลุ่มต่างๆ ทุก 2 สัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาข้าวอย่างเป็นระบบ
นายปีติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาจากเกษตรกรโดยตรงแล้ว กระทรวงเกษตรฯ ยังใช้โอกาสนี้แจ้งเตือนแก่เกษตรกรในพื้นที่ถึงสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน ที่ยังพบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนหลักในปีนี้ค่อนข้างต่ำกว่าเกณฑ์ จึงขอความร่วมมือในการงดการปลูกข้าวนาปรังซึ่งเสี่ยงต่อการขาดทุนและผลผลิตเสียหายได้ รวมถึงร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมชลประทานวางแผนการปลูกพืชฤดูแล้งให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ และประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรในทุกพื้นที่รับทราบโดยเร็วต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th