นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานมอบรางวัลองค์กรแห่งความเป็นเลิศ ด้านการบริหารการเงินการคลัง ในวันนี้ (26 ก.ย.) ว่า กรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานกลางที่มีความสำคัญในการผลักดันให้หน่วยงานของรัฐมีการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งรางวัลนี้ถือเป็นรางวัลที่เปรียบเสมือนกระจกสะท้อนความสามารถในการขับเคลื่อนประเทศของส่วนราชการที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ไม่มีองค์กรหรือหน่วยงานใดที่จะสามารถทำได้เพียงลำพัง แต่เกิดจากความร่วมมือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่ก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความแข็งแกร่งและยั่งยืน
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ภารกิจหนึ่งของกรมบัญชีกลางคือการกำกับดูแลการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง เพื่อส่งเสริมให้ส่วนราชการบริหารจัดการได้อย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของประชาชน กรมบัญชีกลางจึงจัดให้มีการคัดเลือกและมอบรางวัล “องค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ขึ้น โดยประเมินส่วนราชการใน 5 มิติ คือ มิติด้านการจัดซื้อจัดจ้าง มิติด้านการเบิกจ่าย มิติด้านการบัญชี มิติด้านการตรวจสอบภายใน และมิติด้านความรับผิดทางแพ่ง เพื่อสร้างแรงจูงใจ และการยกย่องเชิดชู ส่วนราชการที่สามารถปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และมีความโปร่งใสในการปฏิบัติงานตามเกณฑ์ 5 มิติ ที่กรมบัญชีกลางกำหนด
การประเมินส่วนราชการตามขั้นตอนการบริหารด้านการเงินการคลัง ทั้ง 5 มิติ เริ่มต้นจากส่วนราชการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เมื่อจัดซื้อจัดจ้างสำเร็จแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณ การลงบัญชี และมีการตรวจทานโดยหน่วยตรวจสอบภายในของส่วนราชการ เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนงานที่ดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และหากมีการผิดพลาดหรือเกิดการละเมิดขึ้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการละเมิดและแพ่งซึ่งเป็นมิติด้านสุดท้าย
นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการมอบรางวัลในวันนี้ มี 3 ประเภทรางวัล คือ รางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง รางวัลประกาศเกียรติคุณบัญชีภาครัฐดีเด่น และรางวัลประกาศเกียรติคุณการประกันคุณภาพงานตรวจสอบภายในภาครัฐ โดยมีผู้เข้ารับรางวัลทั้งสิ้น 49 หน่วยงาน จากหน่วยงานทั่วประเทศ 223 หน่วยงาน
“มิติทั้ง 5 ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานของทุกส่วนราชการ ที่สะท้อนถึงความโปร่งใส การตรวจสอบได้ และความมีธรรมาภิบาล และถ้าทุกหน่วยงานปฏิบัติได้ถูกต้องครบทุกกระบวนการจะส่งผลให้ประเทศเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ที่สำคัญรางวัลที่ได้รับกันในวันนี้ นอกจากเป็นขวัญกำลังใจแล้วยังถือเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนางานให้ดีมากยิ่งขึ้น และคงคุณภาพมาตรฐานที่ดีไว้เช่นนี้ต่อไป เหมือนกับสโลแกนของงานที่ว่า “รางวัลจะสูงค่า มิใช่เพียงได้รับมา แต่ต้องรักษา และดำรงไว้ให้ยั่งยืน ทุกๆ ความสำเร็จ คือผลประโยชน์ของแผ่นดิน” นายมนัสกล่าว
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th