“รัชตะ” ประชุมทำเนียบขาว รับเป็นผู้นำรับมือโรคติดต่ออุบัติใหม่ เตรียมเสนอแผนสนับสนุนการควบคุมอีโบลาต่อครม.ทันที

ข่าวทั่วไป Monday September 29, 2014 17:42 —สำนักโฆษก

กระทรวงสาธารณสุขไทย รับเป็นประเทศผู้นำในการพัฒนาเครือข่ายทางห้องปฏิบัติการทางสาธารณสุข และการพัฒนาทีมนักระบาดวิทยาร่วมกับนานาชาติ เพื่อรับมือกับโรคติดต่ออุบัติใหม่ รวมทั้งปัญหาเชื้อดื้อยา ในเวทีประชุมผู้นำสุขภาพระดับโลกที่ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา พร้อมเสนอแผนการสนับสนุนการควบคุมโรคอีโบลา แก่ประเทศต้นทางการระบาดของโรคต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด

ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมวาระความมั่นคงด้านสุขภาพของโลก(Global Health Security Agenda : GHSA) ร่วมกับผู้นำองค์กรสุขภาพโลก เช่น องค์การอนามัยโลก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ องค์สุขภาพสัตว์โลก กระทรวงสาธารณสุขประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2557ว่าสาระหลักของการประชุมครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกทั่วโลก เร่งพัฒนาสมรรถนะ ในการป้องกันภาวะคุกคามจากโรคติดต่อและโรคติดต่ออุบัติใหม่ให้ได้ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ.2548 รวมทั้งสร้างความร่วมมือป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา เพื่อสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพของโลก ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญสูงสุดในการควบคุมการระบาดของโรคอีโบลาในประเทศแอฟริกาตะวันตกที่กำลังทวีความรุนแรงและจำเป็นเร่งด่วนในการควบคุมการระบาดในประเทศต้นทาง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไทยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยจะนำเสนอแผนความช่วยเหลือแก่ประเทศต้นทางการระบาดของโรคให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาให้ความเห็นชอบโดยเร็วที่สุด

ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนวาระความมั่นคงด้านสุขภาพของโลกร่วมกับนานาชาติ เป็นไปกรอบกฎอนามัยระหว่างประเทศ ทั้งในฐานะประเทศที่มีส่วนร่วมและประเทศผู้นำ ในเรื่องการพัฒนาเครือข่ายทางห้องปฏิบัติการทางสาธารณสุขและการพัฒนากำลังคนด้านสาธารณสุขในสาขาระบาดวิทยา ซึ่งไทยมีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และจะร่วมในการป้องกันควบคุมปัญหาเชื้อจุลชีพดื้อยาปฏิชีวนะด้วย เนื่องจากกำลังเป็นปัญหากระทบทั่วโลก พบหลายโรค เช่น วัณโรค ในปี 2555 พบผู้ป่วยทั่วโลกประมาณ 450,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อชนิดดื้อยารายใหม่ร้อยละ 6 ส่วนรายเก่าพบร้อยละ 24 และยังพบในโรคมาลาเรีย หนองใน เอชไอวี และไข้หวัดใหญ่ หากไม่ช่วยกันเร่งแก้ไขจะมีผลทำให้ผู้ป่วยป่วยนานวันขึ้น มีอาการรุนแรง เพิ่มความเสี่ยงเสียชีวิตสูงขึ้น และต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากยาที่ใช้อยู่เดิมอาจไม่ได้ผล หรือต้องใช้ขนาดยาให้แรงขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้แต่งตั้งนายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้ประสานงานหลักของกระทรวงสาธารณสุข ในการดำเนินงานตามกรอบวาระความมั่นคงด้านสุขภาพของโลก เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปคำมั่นที่ให้ไว้ในที่ประชุมอย่างเป็นรูปธรรม

“ไทยยังได้เสนอเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวาระความมั่นคงด้านสุขภาพของโลกในครั้งต่อไปโดยเชิญประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก และกลุ่มประเทศผู้สนับสนุนทุนเข้าร่วมประชุม” ในการประชุมคราวนี้ ได้มีโอกาสพูดคุยกับทางผู้บริหารองค์การอนามัยโลก และศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐ และ USAID ถึงการสนับสนุนการควบคุมโรคอีโบลา ซึ่งจะได้นำเสนอขอความเห็นชอบต่อครม. โดยเร็วต่อไป”ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าว

29 กันยายน 2557

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ