พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) แนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งทางบก

ข่าวทั่วไป Monday September 29, 2014 17:51 —สำนักโฆษก

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) แนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งทางบก โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เข้าร่วมสัมมนาดังกล่าว ณ อาคารสโมสรและหอประชุม กระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2557

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมุ่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในประเทศเป็นลำดับแรก ตามยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 - 2565 โดยการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งทางบกทั้งระบบ ตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ โดยรัฐบาลได้มุ่งเน้นการสร้างโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งให้ครอบคลุมทั่วประเทศรวมถึงเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีเป้าหมายในการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศจากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 15.2 ให้เหลือร้อยละ 13 รวมทั้งให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อการเดินทางภายในประเทศให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ทั้งภายในกรุงเทพมหานครและการเชื่อมต่อเครือข่ายจากเมืองใหญ่สู่กรุงเทพมหานคร ซึ่งการดำเนินงานทุกโครงการต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนการเดินทางระหว่างจังหวัดด้วยรถโดยสารเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลงจาก 59% ให้เหลือ 40% โดยจะต้องมีการจัดรถขนส่งมวลชนและรถสาธารณะให้เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น รวมทั้งแก้ไขปัญหาการจราจรทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตเมือง ตลอดจนการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะในเขตเมือง จุดตัดทางรถไฟในเมืองและระหว่างจังหวัด รวมถึงโครงข่ายการขนส่งที่เชื่อมโยงประตูการค้า นิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือสำคัญ การลดความแออัดบริเวณหน้าด่านฯ การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้ทางพิเศษใช้บัตรอีซี่พาสเพิ่มขึ้น การเพิ่มเส้นทางสำหรับรถจักรยาน การจัดจุดจอดรถสำหรับรถรับจ้างสาธารณะและรถบรรทุกสินค้า นอกจากนี้ ในส่วนของการขนส่งทางรถไฟจะเพิ่มความแข็งแรงของรางรถไฟจากไม้หมอนมาเป็นคอนกรีตทั้งหมด และเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรถไฟ จากร้อยละ 2.5 เป็นร้อยละ 5 ส่วนรถไฟโดยสารจะเพิ่มความเร็วเฉลี่ยจาก 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 6 สายทาง 13 โครงการ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ รฟม. ได้มอบนโยบายให้ดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ใช้บริการ มีมาตรฐาน ความปลอดภัย และเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะประเภทอื่น ๆ สำหรับการแก้ไขปัญหาค่าโดยสารจะพิจารณาในทุกระบบขนส่งสาธารณะให้มีความเชื่อมโยง สอดคล้องกัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action plan) ส่งมายังกระทรวงคมนาคมภายใน 15 วัน โดยกำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมาย แผนงาน การใช้งบประมาณ หน่วยที่รับผิดชอบ กรอบระยะเวลาดำเนินงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับทั้งนามธรรมและรูปธรรม และมีตัวชี้วัด (KPI) ที่ชัดเจนทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ ทั้งนี้ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม 5 ด้าน โดยมีเป้าหมายเพื่อการเชื่อมต่อพื้นที่สำคัญภายในประเทศและระหว่างประเทศ ได้แก่ เมืองหลวง เมืองใหญ่ ชนบท เมืองท่า ด่านชายแดน และนิคมอุตสาหกรรม การเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชมคมอาเซียน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชื่อมโยงประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ