รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมุ่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในประเทศเป็นลำดับแรก ตามยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 - 2565 โดยการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งทางบกทั้งระบบ ตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ โดยรัฐบาลได้มุ่งเน้นการสร้างโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งให้ครอบคลุมทั่วประเทศรวมถึงเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีเป้าหมายในการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศจากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 15.2 ให้เหลือร้อยละ 13 รวมทั้งให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อการเดินทางภายในประเทศให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ทั้งภายในกรุงเทพมหานครและการเชื่อมต่อเครือข่ายจากเมืองใหญ่สู่กรุงเทพมหานคร ซึ่งการดำเนินงานทุกโครงการต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนการเดินทางระหว่างจังหวัดด้วยรถโดยสารเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลงจาก 59% ให้เหลือ 40% โดยจะต้องมีการจัดรถขนส่งมวลชนและรถสาธารณะให้เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น รวมทั้งแก้ไขปัญหาการจราจรทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตเมือง ตลอดจนการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะในเขตเมือง จุดตัดทางรถไฟในเมืองและระหว่างจังหวัด รวมถึงโครงข่ายการขนส่งที่เชื่อมโยงประตูการค้า นิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือสำคัญ การลดความแออัดบริเวณหน้าด่านฯ การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้ทางพิเศษใช้บัตรอีซี่พาสเพิ่มขึ้น การเพิ่มเส้นทางสำหรับรถจักรยาน การจัดจุดจอดรถสำหรับรถรับจ้างสาธารณะและรถบรรทุกสินค้า นอกจากนี้ ในส่วนของการขนส่งทางรถไฟจะเพิ่มความแข็งแรงของรางรถไฟจากไม้หมอนมาเป็นคอนกรีตทั้งหมด และเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรถไฟ จากร้อยละ 2.5 เป็นร้อยละ 5 ส่วนรถไฟโดยสารจะเพิ่มความเร็วเฉลี่ยจาก 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 6 สายทาง 13 โครงการ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ รฟม. ได้มอบนโยบายให้ดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ใช้บริการ มีมาตรฐาน ความปลอดภัย และเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะประเภทอื่น ๆ สำหรับการแก้ไขปัญหาค่าโดยสารจะพิจารณาในทุกระบบขนส่งสาธารณะให้มีความเชื่อมโยง สอดคล้องกัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action plan) ส่งมายังกระทรวงคมนาคมภายใน 15 วัน โดยกำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมาย แผนงาน การใช้งบประมาณ หน่วยที่รับผิดชอบ กรอบระยะเวลาดำเนินงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับทั้งนามธรรมและรูปธรรม และมีตัวชี้วัด (KPI) ที่ชัดเจนทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ ทั้งนี้ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม 5 ด้าน โดยมีเป้าหมายเพื่อการเชื่อมต่อพื้นที่สำคัญภายในประเทศและระหว่างประเทศ ได้แก่ เมืองหลวง เมืองใหญ่ ชนบท เมืองท่า ด่านชายแดน และนิคมอุตสาหกรรม การเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชมคมอาเซียน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชื่อมโยงประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th