รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในโอกาสนี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และไทยมีความใกล้ชิด มีความผูกพัน รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยให้ความสำคัญต่อความส่งเสริมความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายมาโดยตลอด ในส่วนของการดำเนินงาน และความร่วมมือระหว่างกระทรวงของเราทั้งสอง ในหลายปีที่ผ่านมาการ
งานด้านการศึกษาของลาวก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว เด็กได้มีการศึกษา ครูและสถานศึกษามีการพัฒนาและยกระดับขึ้นอย่างมาก โดยการเดินทางมาของ ฯพณฯ ในครั้งนี้ ให้ความสนใจเกี่ยวกับนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา ผมจึงได้เชิญผู้แทนหน่วยงานต่างๆ มาร่วมนำเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงาน
“โดยการใช้เทคโนโลยีในการศึกษา ได้ช่วยเรามากว่า ๓๐ ปี ซึ่งมีทั้งประโยชน์และปัญหา ในปัจจุบันรัฐบาลให้ความสนใจกับ ค่านิยม ๑๒ ประการ เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่จำเป็นต้องพัฒนาแต่ความรู้เท่านั้น แต่ควรจะมีการพัฒนาควบคู่กับคุณธรรม จริยธรรม จิตสำนึก กับการรักษาวัฒนธรรมที่ดีงามของชาติ ซึ่งมีการถ่ายทอดในทุกโรงเรียนระดับต่างๆ การใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของไทย เทคโนโลยีเป็นสิ่งเริ่มต้น แต่ขณะเดียวกันต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องครู เพราะพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย ความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีไม่เหมือนกัน รวมถึงการสื่ออื่นๆ ในการศึกษา จากประสบการณ์ทั้งที่ดีและไม่ดีของไทย สามารถจะช่วยแลกเปลี่ยนความรู้ได้” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว
โดยที่ประชุมหารือยังได้มีการเสนอเพื่อทราบถึง นโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษารวมทั้งการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สป. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ให้กับทางคณะจากกระทรวงศึกษาธิการและกีฬา สปป.ลาว ได้ทราบอีกด้วย
ปกรณ์/รายงาน
กิตติกร/ภาพ
กลุ่มสารนิเทศ สอ.สป.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th