นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวในพิธีการส่งมอบเครื่องมือภายใต้โครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ (AHRDP) ตามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการดำเนินโครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงอุตสาหกรรม ณ ห้องประชุมชุณหะวัณ กระทรวงอุตสาหกรรม ว่า กระทรวงแรงงานและกระทรวงอุตสาหกรรมมีความใกล้ชิดกันมาตลอด เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันจนสามารถสร้างบุคลากรในระดับปฏิบัติการกว่า 7 พันคน และระดับผู้ฝึกสอนกว่า 400 คน ทั้งนี้การรับมอบเครื่องมืออุปกรณ์ดังกล่าวถือเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่และหนักหน่วงที่จะเตรียมคนในการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ให้ได้ 3.5 ล้านคัน ตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ในปี 2563 ดังนั้นจึงต้องการกำลังแรงงานฝีมือประมาณ 2 แสนคน ทั้งในระดับปฏิบัติการและวิศวกร พร้อมทั้งลดการพึ่งพาแรงงานเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะนี้อยู่ในสายการผลิตถึงประมาณ 1.2 แสนคน จากทั้งหมด 7 แสนคน ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานระดับล่างหรือไร้ทักษะฝีมือ
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สถาบันพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ได้มีการจัดตั้งขึ้นในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 1 สมุทรปราการ หลังจากนั้นจะจัดตั้งเพิ่มเติมในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค คือ ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดระยอง พระนครศรีอยุธยา และฉะเชิงเทรา เหตุผลที่เลือกจังหวัดดังกล่าวเนื่องจากเป็นแหล่งอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ จึงสะดวกที่นายจ้าง และสถานประกอบกิจการจะส่งกำลังแรงงานเข้ารับการฝึกอบรม จึงขอเชิญชวนให้มาใช้บริการของสถาบันฯ เพื่อการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในเชิงปริมาณและคุณภาพ
ด้าน นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การส่งมอบเครื่องมือดังกล่าวเกิดจากการลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานและกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2550 ซึ่งเนื้อหาในบันทึกดังกล่าวส่วนหนึ่งระบุว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะส่งมอบเครื่องมืออุปกรณ์ให้กับกระทรวงแรงงาน โดยให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นหน่วยงานที่จะนำไปบริหารจัดการเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์จำนวน 831 รายการภายใต้การสนับสนุนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency - JICA) หรือไจก้า ทั้งนี้ที่ผ่านมาในปี 2555 ประเทศไทยสามารถผลิตยานยนต์ได้กว่า 2 ล้านคัน ส่วนปี 2556 ไทยเป็นประเทศที่ผลิตยานยนต์มากเป็นอันดับ 9 ของโลก ส่วนในปี 2563 ตั้งเป้าจะผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ให้ได้ 3.5 ล้านคัน ดังนั้นจึงมีความต้องการกำลังแรงงานทั้งด้านบริหาร เทคนิค วิศวกร และแรงงานสายการผลิต
กลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ที่มา: http://www.thaigov.go.th