นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีหนังสือเชิญนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนญี่ปุ่น

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณนายชินโซ อาเบะ (Shinzo Abe) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสำหรับความปรารถนาดี และหนังสือแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งพร้อมเชิญเยือนญี่ปุ่น ต้องขอขอบคุณรัฐบาลและประชาชนญี่ปุ่นที่เป็นมิตรที่ดีต่อไทยเสมอมา ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ยืนยาวมานานถึง 127 ปี ในปีนี้ โดยความแนบแน่นทั้งสามระดับสำคัญ ระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระจักรพรรดิ์ ทรงเป็นพระสหายที่มีความใกล้ชิด ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ที่มีความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง และความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยและคนญี่ปุ่น ที่ติดต่อค้าขายและเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ ช่องทางความร่วมมือทางทหารที่ดีระหว่างกัน ที่ผ่านมาไทยเข้าใจดีถึงท่าทีของญี่ปุ่นในช่วงก่อนหน้านี้ คนไทยทุกคนไม่ต้องการให้ประชาธิปไตยหยุดชะงัก ขอให้ญี่ปุ่นมั่นใจว่าไทยยังยึดมั่นแนวทางประชาธิปไตย ขณะนี้ การปฏิรูปประเทศอยู่ในระยะที่สองซึ่งเป็นไปตาม roadmap เพื่อก้าวสู่การเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง รัฐบาลมีความจำเป็นต้องดูแลเสถียรภาพทางการเมือง ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระเบียบ กฎหมาย เพื่อให้ประเทศเดินหน้าอย่างรวดเร็วและยั่งยืนในอนาคต

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ไทยมีทิศทางชัดเจนในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจซึ่งเปิดกว้างและโปร่งใส ต้องการร่วมมือกับญี่ปุ่นทุกมิติ โดยเฉพาะกรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (Japan-Thailand Economic Partnership Agreement - JTEPA) ถือว่าเป็นกลไกหลักที่ไทยต้องการพัฒนาให้ก้าวหน้าตามลำดับ รัฐบาลไทยยืนยันจะดูแลนักลงทุนญี่ปุ่นอย่างดีและเป็นธรรม และเสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการลงทุนต่างชาติ และขอขอบคุณผู้ประกอบการญี่ปุ่นทุกภาคส่วนที่ฝ่าฟันอุทกภัยร่วมกับไทยเมื่อปี 2553 และยังคงเดินหน้าลงทุนในไทยต่อไป ปัจจุบันคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้อนุมัติการลงทุนจากญี่ปุ่นในไทยกว่า 15,000 ล้านบาทแล้ว ขอให้ญี่ปุ่นเร่งส่งเสริมการลงทุนจริงในไทยเพิ่มยิ่งขึ้นหลังจากที่มีการลงทุนจริงแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่สำคัญ อาทิ เทคโนโลยีการสื่อสาร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบราง พลังงานทางเลือก อยากให้ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในภาคธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงในไทยมากขึ้น การวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ และเปิดโอกาสให้แก่พนักงานไทยสามารถขึ้นสู่ระดับบริหารได้ รวมทั้งอุตสาหกรรมแปรรูปจากวัตถุดิบการเกษตรที่มีอยู่เป็นจำนวนมากของไทย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้อีกทางหนึ่ง

ประเทศไทยพร้อมร่วมมือกับญี่ปุ่นภายใต้โครงการ Thai+1 สอดคล้องกับนโยบายของไทย ในการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสำคัญในทุกภาคทั้งภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก ตะวันตกและทิศใต้ เพื่อเชื่อมโยงกับลาว กัมพูชา เมียนมาร์ เพื่อช่วยคนไทยที่มีรายได้น้อยในชนบทและจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยรัฐบาลและคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทยได้กำหนดการสนับสนุนการลงทุนนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทญี่ปุ่นที่จะต่อยอดการลงทุนในไทยเป็นฐานไปลงทุนต่อในประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับ โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ไทยยืนยันจะเดินหน้าพัฒนาโครงการทวายอย่างจริงจัง โดยจะเป็นการดีที่จะมีความร่วมมือ 3 ฝ่าย โดยรัฐบาลเมียนมาร์และรัฐบาลไทยและญี่ปุ่นซึ่งเป็นหุ้นส่วนสำคัญในภูมิภาคเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้ สำหรับส่งเสริมนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทย รัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแลอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติประกาศวันหยุดราชการช่วงปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม- 4 มกราคม มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ หวังว่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะเดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน สำหรับข้อห่วงใยของญี่ปุ่นเกี่ยวกับการผ่อนปรนมาตรการกำกับดูแลการนำเข้าสินค้าอาหารจากญี่ปุ่นนั้น ระหว่างนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงการเยือนไทยในฐานะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี และมอบหนังสือจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยืนยันเจตนารมณ์ของญี่ปุ่นที่จะกระชับความสัมพันธ์กับไทย พร้อมต้อนรับการเยือนญี่ปุ่นเมื่อสะดวก และทราบว่าการพบปะระหว่างพลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีแลรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 69 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นไปด้วยดีมีการหารืออย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเข้าใจถึงความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงภายใน และเชื่อว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะสามารถเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบได้ตาม roadmap ที่ได้วางไว้ รัฐบาลและภาคเอกชนญี่ปุ่นยืนยันที่จะขยายความร่วมมือทั้งการค้าการลงทุนกับไทย โดยเล็งเห็นว่าไทยมีศักยภาพในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งระบบรางและพร้อมสนับสนุนภาคเอกชนญี่ปุ่นขยายการลงทุนในไทย และพร้อมจะถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อยกระดับและพัฒนาบุคคลากรไทยซึ่งเป็นวัฒนธรรมการลงทุนของญี่ปุ่นในต่างประเทศที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีประเทศที่เข้ามาลงทุน

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อ กรณีการปะทุของภูเขาไฟออนตาเกะ ทำให้มีผู้เสียชีวิต ไม่ว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร เมื่อประเทศประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ พี่น้องคนไทยและญี่ปุ่นต่างเป็นชาติที่ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือ ดูแลกันและกันมาโดยตลอด

ที่มา: http://www.thaigov.go.th