ทำเนียบรัฐบาล--6 พ.ย.--บิสนิวส์
วันนี้เวลา 10.30 น. ณ ห้องสีงาช้างตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายหวาง ฮันปิน (Wang Hanbin) รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะเข้าเยี่ยมคารวะพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเดินทางทาเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 3-10 พฤศจิกายน 2540 และได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกัน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความยินดีในพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ที่นับวันจะมีแต่จะกระชับแน่นแฟ้นและใกล้ชิดมากขึ้นดั่งเป็นญาติสนิทกันฉันท์บ้านพี่-เมืองน้อง ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีบุคคลสำคัญของทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนการเดินทางเยือนระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่นายกรัฐมนตรีได้นำคณะเดินทางไปเยือนจีนเมื่อเดือนเมษายน 2540 ที่ผ่านมานั้น ฝ่ายจีนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและเห็นว่าการเยือนในครั้งนั้น ก่อประโยชน์เป็นอย่างมากต่อความร่วมมือระหว่างไทย-จีน และนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมมิตรภาพระหว่างประเทศทั้งสองมาโดยตลอด
ในโอกาสนี้ รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน แจ้งว่า จีนให้ความสำคัญสูงสุดแก่ความร่วมมือแบบทวิภาคีระหว่างไทย-จีน เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในปัจจุบัน มูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศทั้งสองกำลังขยายตัวและมีปริมาณสูงมาก แม้แต่ในด้านกิจการต่างประเทศ ทั้งไทยและจีนต่างก็มีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันและได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมสันติภาพและความเจริญมั่งคั่งให้แก่ภูมิภาคนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอด 22 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ประเทศทั้งสองไม่เคยมีความขัดแย้งกันแต่ประการใด ซึ่งนับเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับประเทศที่มีระบบการเมืองการปกครองที่แตกต่างกัน แต่สามารถเพิ่มพูนความสัมพันธ์และอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและสนิทสนม
นอกจากนี้ รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ยังได้กล่าวแสดงความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจของไทยและเห็นว่า วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นเพียงอุปสรรคชั่วคราวในการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น และเชื่อมั่นว่าประเทศไทยและประชาชนไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาในขณะนี้และฟื้นฟูเศรษฐกิจกลับสู่สภาพเดิมได้ในที่สุด พร้อมกันนี้ รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ให้ความเห็นว่า ความเจริญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทยมีความสำคัญต่อจีนและต่อภูมิภาคนี้ร่วมกัน ทั้งนี้ จีนเองยินดีสนับสนุนโครงการพัฒนาความร่วมมือในกลุ่มแม่น้ำโขงและการสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างเอเซียและยุโรปด้วยเช่นกัน
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความเห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ สืบเนื่องจากการรีบเร่งพัฒนาเศรษฐกิจที่เกินระดับความเหมาะสม และเห็นว่าสถานการณ์ในประเทศไทยคงเป็นตัวอย่างที่สำคัญอันหนึ่งสำหรับการพัฒนาประเทศของจีนในอนาคต พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า จีนมีรูปแบบการพัฒนาที่ถูกต้องและมีเงื่อนไขที่เหมาะสม ดังนั้น จีนจะกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ในอนาคต
ต่อมาในเวลา 11.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นาย Ren Haishen นายกเทศมนตรีเมืองเอียนไถ (Yantai) ได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1-9 พฤศจิกายน 2540 ตามคำเชิญของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและเพื่อลงนามในความตกลงสถาปนาบ้านพี่-เมืองน้องระหว่างจังหวัดภูเก็ตและเมืองเอียนไถ อนึ่ง ในระหว่างการพบปะกันทั้งสองฝ่ายได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกัน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความชื่นชมบทบาทของ นาย Ren Haishen นายกเทศมนตรีเมืองเอียนไถ (Yantai) ในการช่วยส่งเสริมความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและจีนให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยมีความยินดีที่ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องให้มีการลงนามในความตกลงการสถาปนาบ้านพี่-เมืองน้องระหว่างจังหวัดภูเก็ตและเมืองเอียนไถ ซึ่งเป็นความปราถนาของรัฐบาลไทยมานานแล้ว พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เชิญชวนให้ นายกเทศมนตรีเมืองเอียนไถ ร่วมมือกับจังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมธุรกิจด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน ด้วยจังหวัดภูเก็ตจัดเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย
ในการนี้ นายกเทศมนตรีเมืองเอียนไถ ให้ความเห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่จังหวัดภูเก็ตและเมืองเอียนไถ จะร่วมมือกันในการส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน ตามแนวทางของความตกลงที่ได้จัดทำขึ้นร่วมกันดังกล่าวและว่า ในฐานะที่เป็นส่วนบริการระดับท้องถิ่นของจีน ฉะนั้น ตนจะมุ่งมั่นพยายามทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อทำให้ความร่วมมือดังกล่าวมีผลเป็นจริงขึ้นมา พร้อมกันนี้ นายกเทศมนตรีนานาชาติ APEC Trade Fair ครั้งที่ 2 ณ เมืองเอียนไถ (6-10 มิถุนายน 2540) จนทำให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความสำเร็จ กล่าวคือ นอกจาก นายกรัฐมนตรี ได้มีสารอวยพรการเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวแล้ว ประเทศไทยยังส่งคณะผู้แทนของตนไปร่วมงานดังกล่าวด้วย--จบ--
วันนี้เวลา 10.30 น. ณ ห้องสีงาช้างตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายหวาง ฮันปิน (Wang Hanbin) รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะเข้าเยี่ยมคารวะพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเดินทางทาเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 3-10 พฤศจิกายน 2540 และได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกัน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความยินดีในพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ที่นับวันจะมีแต่จะกระชับแน่นแฟ้นและใกล้ชิดมากขึ้นดั่งเป็นญาติสนิทกันฉันท์บ้านพี่-เมืองน้อง ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีบุคคลสำคัญของทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนการเดินทางเยือนระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่นายกรัฐมนตรีได้นำคณะเดินทางไปเยือนจีนเมื่อเดือนเมษายน 2540 ที่ผ่านมานั้น ฝ่ายจีนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและเห็นว่าการเยือนในครั้งนั้น ก่อประโยชน์เป็นอย่างมากต่อความร่วมมือระหว่างไทย-จีน และนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมมิตรภาพระหว่างประเทศทั้งสองมาโดยตลอด
ในโอกาสนี้ รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน แจ้งว่า จีนให้ความสำคัญสูงสุดแก่ความร่วมมือแบบทวิภาคีระหว่างไทย-จีน เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในปัจจุบัน มูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศทั้งสองกำลังขยายตัวและมีปริมาณสูงมาก แม้แต่ในด้านกิจการต่างประเทศ ทั้งไทยและจีนต่างก็มีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันและได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมสันติภาพและความเจริญมั่งคั่งให้แก่ภูมิภาคนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอด 22 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ประเทศทั้งสองไม่เคยมีความขัดแย้งกันแต่ประการใด ซึ่งนับเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับประเทศที่มีระบบการเมืองการปกครองที่แตกต่างกัน แต่สามารถเพิ่มพูนความสัมพันธ์และอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและสนิทสนม
นอกจากนี้ รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ยังได้กล่าวแสดงความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจของไทยและเห็นว่า วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นเพียงอุปสรรคชั่วคราวในการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น และเชื่อมั่นว่าประเทศไทยและประชาชนไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาในขณะนี้และฟื้นฟูเศรษฐกิจกลับสู่สภาพเดิมได้ในที่สุด พร้อมกันนี้ รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ให้ความเห็นว่า ความเจริญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทยมีความสำคัญต่อจีนและต่อภูมิภาคนี้ร่วมกัน ทั้งนี้ จีนเองยินดีสนับสนุนโครงการพัฒนาความร่วมมือในกลุ่มแม่น้ำโขงและการสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างเอเซียและยุโรปด้วยเช่นกัน
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความเห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ สืบเนื่องจากการรีบเร่งพัฒนาเศรษฐกิจที่เกินระดับความเหมาะสม และเห็นว่าสถานการณ์ในประเทศไทยคงเป็นตัวอย่างที่สำคัญอันหนึ่งสำหรับการพัฒนาประเทศของจีนในอนาคต พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า จีนมีรูปแบบการพัฒนาที่ถูกต้องและมีเงื่อนไขที่เหมาะสม ดังนั้น จีนจะกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ในอนาคต
ต่อมาในเวลา 11.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นาย Ren Haishen นายกเทศมนตรีเมืองเอียนไถ (Yantai) ได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1-9 พฤศจิกายน 2540 ตามคำเชิญของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและเพื่อลงนามในความตกลงสถาปนาบ้านพี่-เมืองน้องระหว่างจังหวัดภูเก็ตและเมืองเอียนไถ อนึ่ง ในระหว่างการพบปะกันทั้งสองฝ่ายได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกัน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความชื่นชมบทบาทของ นาย Ren Haishen นายกเทศมนตรีเมืองเอียนไถ (Yantai) ในการช่วยส่งเสริมความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและจีนให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยมีความยินดีที่ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องให้มีการลงนามในความตกลงการสถาปนาบ้านพี่-เมืองน้องระหว่างจังหวัดภูเก็ตและเมืองเอียนไถ ซึ่งเป็นความปราถนาของรัฐบาลไทยมานานแล้ว พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เชิญชวนให้ นายกเทศมนตรีเมืองเอียนไถ ร่วมมือกับจังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมธุรกิจด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน ด้วยจังหวัดภูเก็ตจัดเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย
ในการนี้ นายกเทศมนตรีเมืองเอียนไถ ให้ความเห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่จังหวัดภูเก็ตและเมืองเอียนไถ จะร่วมมือกันในการส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน ตามแนวทางของความตกลงที่ได้จัดทำขึ้นร่วมกันดังกล่าวและว่า ในฐานะที่เป็นส่วนบริการระดับท้องถิ่นของจีน ฉะนั้น ตนจะมุ่งมั่นพยายามทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อทำให้ความร่วมมือดังกล่าวมีผลเป็นจริงขึ้นมา พร้อมกันนี้ นายกเทศมนตรีนานาชาติ APEC Trade Fair ครั้งที่ 2 ณ เมืองเอียนไถ (6-10 มิถุนายน 2540) จนทำให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความสำเร็จ กล่าวคือ นอกจาก นายกรัฐมนตรี ได้มีสารอวยพรการเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวแล้ว ประเทศไทยยังส่งคณะผู้แทนของตนไปร่วมงานดังกล่าวด้วย--จบ--