วันนี้ (6 ต.ค.57) เวลา 12.05 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ครั้งที่ 1/2557 ถึงกรณีความคืบหน้าการหายไปของเฮลิคอปเตอร์ว่า รัฐบาลได้มีการประสานงานกับประเทศเมียนมาร์ผ่านทางทูตทหาร และกองทัพไทยเพื่อให้ความช่วยเหลือ และยินดีสนับสนุนเรื่องดาวเทียมในการค้นหา ซึ่งต้องใช้เวลาในการค้นหา
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปถึงการประชุมร่วมระหว่างรัฐบาลกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ไม่มีอะไรพิเศษเป็นเรื่องการส่งมอบภารกิจให้รัฐบาลหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ดำเนินการมาแล้ว 4 เดือนว่ามีอะไรบ้างเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป โดยแบ่งออกเป็นแผนงานระยะสั้น ระยะยาว และระยะเร่งด่วน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) จะมีการหารือแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มงานของ คสช. และรัฐบาลว่าทำอะไรมาบ้างเพื่อให้เกิดความเชื่อมต่อด้านการทำงาน
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต่อไปถึงการยกเลิกกฎอัยการศึกว่า กำลังพิจารณาอยู่ เพราะยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคัดค้าน ขอให้ประชาชนช่วยกัน ทั้งนี้ ถ้าเกิดเหตุการณ์ขึ้นหลังยกเลิกกฎอัยการศึก จะไม่สามารถปฏิรูปได้ ใครจะรับผิดชอบ คนที่รับผิดชอบคือนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว พร้อมกล่าวว่าไม่เคยกลัว เข้ามารับตำแหน่งเพื่อต้องการแก้ไขปัญหา ต้องการให้การปฏิรูปเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่ต้องการผลประโยชน์อะไร ขอแค่กำลังใจ และความเข้าใจในการทำงาน พร้อมกล่าวว่าเข้าใจดีถึงกระบวนการประชาธิปไตย ประเทศไทยต้องมาก่อน ประชาชนต้องปลอดภัย อย่ามุ่งหวังให้ต่างชาติยอมรับอย่างเดียว ต้องคำนึงถึงคนในประเทศด้วย เพราะคนในประเทศมีคุณค่า มีชีวิตเหมือนกัน
สำหรับการเจรจากับกลุ่มการเมืองนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องไปเจรจา นักการเมืองต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ในฐานะประชาชน พร้อมฝากให้สื่อมวลชนช่วยเตือนนักการเมือง ว่าขอโอกาส ขอเวลาให้รัฐบาลทำงานแก้ไขปัญหา ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไป อะไรที่เป็นข้อขัดแย้ง ให้กฎหมายตัดสิน พร้อมกล่าวว่า จะใช้อำนาจในทางสร้างสรรค์ ไม่ต้องการทำอะไรกับใครมากมาย และจะตัดสินทุกอย่างตาม กระบวนการของกฎหมายต่อไป
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
นราวุธ รายงาน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th