พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ มีการรายงานผลการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมต่างๆเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกรณีที่ได้ดำเนินการแล้วได้แก่ ๑.กรณีเด็กชายวัย ๓ ขวบ ถูกน้ำมันร้อนๆ ลวกที่ใบหน้า มากว่า ๑ ปี และฐานะทางบ้านยากจน ที่จังหวัดกาญจนบุรี ๒.กรณีเด็กชายวัย ๑๐ขวบ ใช้ชีวิตในบ้านเพียงลำพัง ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ๓.กรณีมีครอบครัวพิการทั้งบ้าน ที่จังหวัดแพร่ ๔.กรณีนักมวยเด็กสองพี่น้อง ตระเวนขึ้นชกยอมเจ็บตัว เพื่อหาเงินเลี้ยงพ่อแม่ป่วย ที่จังหวัดระยอง ๕.กรณีเด็กทารกเพศหญิงแรกคลอดถูกทิ้งไว้ในถังขยะ ที่จังหวัดนครราชสีมา ๖.กรณีเด็กชายอายุ ๙ ขวบ เป็นผู้ช่วยสัปเหร่อ ทำงานหาเงินเรียนแบ่งเบาภาระพ่อแม่ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ ๗.กรณีครูทำโทษเด็กนักเรียนเกินกว่าเหตุโดยตีก้นคนละ ๘๐ที จนเป็นรอยเขียวช้ำ ที่จังหวัดพิษณุโลก
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีมีเด็กทารกถูกทิ้ง ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ๗ วัน มีเด็กที่ถูกทิ้งจำนวน ๗ คน ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางและมาตรการในการจัดการปัญหาเชิงระบบ เพื่อจัดการกับปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้ง ส่งเสริมความรู้ด้านอนามัยเจริญพันธุ์ และหากเกิดกรณีการตั้งครรภ์ไม่พร้อม สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCCโทร.๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ทั่วประเทศ โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะให้คำปรึกษาและช่วยเหลือมารดา ที่ตั้งครรภ์ ตลอดจนเด็กทารกที่คลอดออกมาในเบื้องต้น เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
"นอกจากนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ยังเตรียมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือให้ความช่วยเหลือกรณีศิลปินนักร้องชื่อดัง ทำร้ายร่างกายภรรยา เนื่องจากเป็นกรณีการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเด็กซึ่งเป็นลูก ของทั้งสองคน จำนวน ๓ คน โดยเบื้องต้นกระทรวงฯให้การคุ้มครองช่วยเหลือผู้ถูกกระทำความรุนแรง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๐ และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖” พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวตอนท้าย.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th