วันนี้ (7ต.ค.57) เวลา 15.30 น. ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.)และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธาน ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพันเอกพิเศษ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และในฐานะคณะโฆษก คสช. ได้แถลงผลการประชุมฯ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
พันเอกพิเศษ วินธัยฯ กล่าวว่า วันนี้ผู้แทนของ คสช. แต่ละฝ่าย ทั้งฝ่ายความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กิจการพิเศษ และฝ่ายต่างประเทศ ตลอดจนส่วนราชการขึ้นตรงนายกรัฐมนตรี ได้รายงานผลการปฏิบัติงานในช่วง 3 - 4 เดือนที่ผ่านมาให้ที่ประชุมฯ รับทราบ โดยในส่วนของงานด้านความมั่นคงภายหลังจากที่รัฐบาลได้เข้ามาบริหารประเทศต่อจาก คสช. นั้น คสช. จะยังดูแลในงานหลัก 3 ด้าน คือ งานการรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาบรรยากาศแห่งความปรองดอง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปซึ่งเป็นเป้าหมายของทุกคนในสังคม และงานที่สนับสนุนรัฐบาลหรือให้ข้อเสนอแนะและความคิดเห็น
สำหรับผลสัมฤทธิ์ของงานด้านความมั่นคงที่ได้ดำเนินการไปในช่วง 4 เดือน ได้แก่ เรื่องการปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ เรื่องการรักษาความมั่นคงของรัฐ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองได้จัดระเบียบสังคมและเข้าควบคุมตรวจค้น บังคับใช้กฎหมาย รวมถึงการจับกุมผู้กระทำผิดในเรื่องของยาเสพติด อาวุธสงคราม การพนัน สิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ และการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ตลอดจนเรื่องการจัดกิจกรรมสร้างความปรองดองและคืนความสุขให้กับคนในชาติ รวมทั้งการจัดทำเอกสารกรอบความเห็นร่วมปฏิรูปประเทศไทย จำนวน 11 ด้าน เสนอต่อ คสช. เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปในอนาคต
นอกจากนี้ ยังได้จัดชุดปฏิบัติงานมวลชน เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจและสร้างทัศนคติที่ดีให้กับประชาชน รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติแบบ one stop service
ขณะเดียวกันได้มีการดำเนินงานในเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการของรัฐ เช่น การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม ให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตลอดจนการส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน และการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนในทรัพยากร โดยเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครองในการดูแลรักษา ตรวจสอบการครอบครองพื้นที่ป่าไม้ และการดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th