นายกรัฐมนตรีขอให้นักกีฬาแข่งขันด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเคารพกติกาอย่างเคร่งครัด
วันนี้ ( 8 ต.ค. 57 ) เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะกรรมการบริหาร เจ้าหน้าที่ และนักกีฬาทีมชาติไทยที่จะไปร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ณ เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 18-24 ตุลาคม 2557 จำนวน 336 คน เข้ารับโอวาท จาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจก่อนเดินทางไปร่วมการแข่งขันฯ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้โอวาทฯ ว่า การกีฬาเป็นสิ่งสำคัญที่จะเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยและมุ่งหวังเพื่อที่จะได้รับชัยชนะ แม้จะได้มาด้วยความยากลำบากกว่าในอดีตที่ผ่านมา เพราะปัจจุบันเทคนิคต่าง ๆ ในการแข่งขันมีการพัฒนาที่สูงขึ้น จึงทำให้นักกีฬาทุกคนจะต้องมีความพยายามในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุดา
พร้อมกล่าวว่า ปีที่ผ่านมานักกีฬาของไทย สร้างผลงานในการแข่งขันอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทำให้ได้รับเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง หลายเหรียญ ปีนี้ก็ขอให้นักกีฬาทุกคนตั้งความหวังไว้ให้มาก ๆ รัฐบาลและคนไทยพร้อมจะต้องที่เป็นกำลังใจให้ แต่ถึงแม้จะได้เหรียญกลับมาน้อยก็ไม่เป็นไร เพราะความสำคัญของการแข่งขันไม่ใช่แค่ผลแพ้ชนะ แต่หากอยู่ที่การทำหน้าที่ของนักกีฬาอย่างเต็มความสามารถในฐานะตัวแทนของประเทศ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากการแข่งขัน การรู้แพ้ รู้ชนะ การให้อภัย การมีน้ำใจให้ต่อกัน ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ที่สำคัญที่สุดคือจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต เคารพในกฎกติกาอย่างเคร่งครัด และการมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ไม่ใช่ไปแข่งขันกีฬากลับมา ก็ยังสู้รบกัน ไม่เข้าใจกัน กีฬาไม่ได้สร้างมาเพื่อให้ทำลายกัน ขอให้นักกีฬาทุกคนรักษาเกียรติภูมิของประเทศ แข่งขันกันอย่างเต็มที่ และขอให้ระมัดระวังอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นด้วย ในส่วนของรัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนการทุกสิ่งที่จะสามารถช่วยได้อย่างเต็มที่ ในฐานะที่เป็นคนไทยก็ยังคาดหวังที่จะได้เหรียญ แต่สิ่งที่สำคัญคือการมีที่ยืนในสังคมโลก
นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมวงการกีฬาของไทย ทั้งกีฬาของคนปกติและกีฬาที่มีความสามารถพิเศษของว่า นักกีฬาของไทยไม่เคยแพ้ใครในโลก เช่นเดียวกับที่ประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศไหนในโลกนี้ ดังนั้น ย่อมเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่จะต้องสร้างความเป็นหนึ่งให้ได้สำหรับนักกีฬาประเภทนี้ในต่างประเทศ และต่อไปจะต้องทำให้กีฬาของไทยมีการพัฒนาให้ดีขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า วันนี้ส่วนใหญ่ประเทศไทย ได้นักกีฬามาจากความสมัครใจ ได้จากพรสวรรค์ ในอนาคตอาจจะต้องมีการสร้างโรงเรียนกีฬา ที่เปิดสอนตั้งแต่วิชาสามัญ ซึ่งจะทำให้เราได้มีนักกีฬาที่มีร่างกายสูงใหญ่ เหมือนนักกีฬาต่างชาติ จะได้สู้กับเขาได้ และเก่งทุกประเภทกีฬา อีกทั้งมี จิตใจที่เข้มแข็ง เพื่อนำชัยชนะกลับมาสู่ประเทศชาติ ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือด้านสวัสดิการและอาชีพให้มากขึ้น และขอให้สู้เต็มที่ รักษาตัวให้ปลอดภัย ประสบความสำเร็จและสมปรารถนาตามที่คาดหวัง
“รัฐบาลพร้อมจะส่งเสริมการกีฬาทุกประเภทให้เป็นพื้นฐานของคนไทย และปลูกฝังให้เยาวชนให้มีน้ำใจนักกีฬา มีวินัย ปฏิบัติตามกฎกติกา เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีแบบแผนมีระเบียบวินัย และยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาผู้เล่นกีฬาให้เป็นนักกีฬาอาชีพให้มากขึ้นในอนาคต”นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเข้ามาบริหารประเทศก็จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น พร้อมที่จะแก้ปัญหาที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องให้ดีขึ้น แต่ทั้งนี้การแก้ปัญหาใช้เวลา เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินด้วยความสุจริต ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใด ๆ หวังเพียงเข้ามาแก้ปัญหา ขอให้ทุกคนร่วมกับรัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปบ้านเมือง แก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย มี่ความโปร่งใส ใช้งบประมาณอย่างประหยัดและคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และวางรากฐานประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยสากลที่ยั่งยืนต่อไป
สำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 มีนักกีฬาคนพิการจาก 41 ประเทศทั่วทวีปเอเชียร่วมชิงชัย ซึ่งประเทศไทยได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันใน 15 ชนิดกีฬา ได้แก่ กรีฑา, ว่ายน้ำ, ยกน้ำหนัก, แบดมินตัน,เทเบิลเทนนิส, บอคเซีย, วีลแชร์ฟันดาบ, ยิงปืน, ยิงธนู, โกลบอล, ฟุตซอลตาบอด, ยูโด, โบว์ลิ่ง, วีลแชร์บาสเกตบอล และวีลแชร์เทนนิส โดยมีจำนวนนักกีฬา – เจ้าหน้าที่ประจำทีม จำนวน 336 คน ประกอบด้วย นักกีฬา 218 คน ผู้ฝึกสอน 81 คน เจ้าหน้าที่ 37 คน ที่จะไปร่วมการแข่งขันในครั้งนี้
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ชมพูนุท / รายงาน
ลัดดา/ตรวจ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th