เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาพบหารือรองนายกรัฐมนตรี

ข่าวทั่วไป Thursday October 9, 2014 13:32 —สำนักโฆษก

วันนี้(9 ตุลาคม 2557) เวลา10.30 น. นางคริสตี้ เคนนี่ย์ (Mrs. Kristie Kenney) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ หม่อมราชวงศ์ ปรีดียาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ณ ห้องรับรอง1 ตึกบัญชาการ1 ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญของการสนทนามีดังนี้

รองนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาในวันนี้ พร้อมย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา โดยไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความร่วมมือในอนาคต

รองนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงนโยบายปฏิรูปด้านต่างๆของไทยที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกามีความสนใจ โดยไทยมีแผนพัฒนาเครือข่ายการขนส่งและสาธารณูปโภค โดยเฉพาะการเพิ่มความเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย รวมทั้งการปฏิรูปด้านพลังงานเพื่อจัดสรรทรัพยากรให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สะท้อนต้นทุนและประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ไทยมีความยินดีหากต่างประเทศมีความสนใจร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว ทั้งนี้เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกามั่นใจว่าหากมีแผนการออกมาเป็นรูปธรรมแล้วนักลงทุนของสหรัฐอเมริกาจะมีความสนใจร่วมลงทุนอย่างแน่นอน

ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือกันในประเด็นกรอบข้อตกลงด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา หรือ TIFA ที่เปิดโอกาสให้ทั้งสองประเทศหารือในเรื่องที่มีความกังวล ไม่ว่าจะเป็นการประเมินสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยหรือประเด็นด้านศุลกากรและความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียน-สหรัฐอเมริกา จึงเป็นเวทีสำคัญที่จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและช่วยเพิ่มความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน โดยต่างเห็นพ้องกันว่า ควรจะเร่งกำหนดจัดประชุมซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ และควรใช้เวทีนี้หารือกันในประเด็นการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP ระหว่างกัน

ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาได้กล่าวชื่นชมไทยที่มีความก้าวหน้าด้านการแพทย์อย่างมาก โดยเฉพาะการวิจัยและการผลิตยาต้านไวรัสและวัคซีน สหรัฐอเมริกาจึงมีความประสงค์ที่จะสนับสนุนและร่วมมือกับไทยในการพัฒนาด้านการแพทย์ ซึ่งฝ่ายไทยยินดีที่จะร่วมมือกับสหรัฐฯ เนื่องจากเห็นว่าความร่วมมือนี้จะสามารถทำประโยชน์ต่อด้านสาธารณสุขของโลกได้อย่างมาก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ