วันนี้ (10 ต.ค.57) เวลา 16.45 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังกลับจากการเดินทางเยือนสหภาพเมียนมาร์ ถึงกรณีที่สื่อต่างชาติเสนอข่าวอ้างว่า 2 ผู้ต้องหา คดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กลับคำรับสารภาพและตกเป็นแพะในคดีดังกล่าวว่า ขอร้องให้สื่อหยุดวิพากษ์วิจารณ์กันก่อน และรอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน ประเด็นวันนี้คือเราต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับต่างประเทศด้วย ซึ่งวันนี้ พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยการสร้างความเข้าใจกับประเทศอังกฤษและนานาประเทศที่ยังมีข้อสงสัยและติดตามในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจ เพียงแต่อาจจะประหลาดใจ (surprise) ว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงจับคนร้ายได้เร็ว ซึ่งตนเองก็ตื่นเต้น ที่จับคนร้ายได้ ความจริงก็ต้องการให้จับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ก็มีการพูดกันไป-มา ซึ่งตนเองรับฟังสื่อและคนวิพากษ์วิจารณ์ และคิดว่าเรื่องจะไปอย่างไรต่อไป แต่ปรากฏว่าการสอบสวนก็ไปถึงตรงนั้นพอดี แล้วสามารถจับผู้ต้องหาได้ทันที โดยช่วงแรกก็มีข้อสงสัยว่าจับได้หรือไม่ได้ พอต่อมาเงียบๆ แล้วเกิดจับได้ก็เลยอาจทำให้สังคมไม่ไว้วางใจ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนช่วยกันสำนึกและให้คนไทยทั้งประเทศช่วยกันคิด ว่า กระบวนการยุติธรรมและวิธีการของเจ้าหน้าที่มีขั้นตอนอยู่ ซึ่งผลที่ออกมาก็เป็นเรื่องดีสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ แต่ถ้าเกิดไม่ใช่เมื่อผลการสอบสวนออกมา เจ้าหน้าที่ก็จะมีความผิด แล้วใครจะกล้าทำเพราะคดีนี้เป็นคดีใหญ่ คนทั่วโลกรับรู้ รับทราบ และมีผลเสียต่อประเทศชาติ ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครกล้าทำ และผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมดำเนินคดี เขาคงไม่ยอมถูกบังคับเพื่อให้ต้องรับผิดมากขนาดนั้น ทั้งนี้ก็ต้องไปว่ากันในกระบวนการ ชั้นนี้เป็นเพียงแค่การจับกุมและสอบสวน และส่งฟ้องอัยการ ก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน ขณะเดียวกันก็จะมีการสร้างความเข้าใจโดยเชิญต่างประเทศที่ยังสงสัยมารับทราบข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มีการเตรียมการไว้แล้ว วันนี้ขอให้เราเป็นกำลังใจให้กันและกัน ขอให้ใจเย็นๆ จะผิดหรือถูกให้ว่ากันไปตามขั้นตอน ทุกเรื่องจะต้องได้คำตอบ ไม่ใช่พอช้าก็บอกว่าจับไม่ได้ สงสัยเจ้าหน้าที่ไม่มีความสามารถ พอจับได้ก็มาบอกว่าทุจริต แล้วจะให้ทำอย่างไร เรื่องเกาะเต่าพูดกันมาหลายสัปดาห์จนร้อนกันไปหมดแล้ว
ส่วนทางสหภาพเมียนมาร์ได้มีการสอบถามเรื่องดังกล่าวหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ถาม แต่ได้ถือโอกาสอธิบายเช่นเดียวกับที่ได้ชี้แจงกับสื่อ ซึ่งนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีแห่งสหภาพเมียนมาร์ เข้าใจ ทั้งๆ ที่มีผลกระทบเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวไม่ได้ระบุว่า ผู้ต้องหาเป็นแรงงานของใครเพราะเป็นเรื่องของบุคคล เพราะฉะนั้นอะไรที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียไปถึงประเทศ จะต้องระมัดระวัง แม้แต่ประเทศเรากันเองจะไปทำลายประเทศกันทำไม ผู้ต้องหาจะใช่ตัวจริงหรือไม่ใช่ตัวจริง อีกไม่นานผลการสอบสวนก็จะออกมาก็มาว่ากันทีหลัง แต่อย่างนี้มาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง (discredit) กันเอง ไม่ใช่
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้มีกระแสข่าวทางโซเซียลมีเดียได้มีการหยิบยกคำพูดของเพื่อนผู้เสียชีวิตมาเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดความเสียหายกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยว่า เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการและดูแลอยู่ขอให้ใจเย็น เรากำลังติดตามความเคลื่อนไหวทุกสื่อและจะดำเนินการสร้างความเข้าใจ ซึ่งการพูดหรือเขียนในโลกอินเตอร์เน็ต ไม่ใช่คำตอบแล้วจะไปฟังกันทำไมในเมื่อไม่ใช่ อย่างไรก็ตามจะใช่หรือไม่ใช่ ตอนนี้กำลังตั้งคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการแล้วก็ขอให้ใจเย็นก่อน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญต่อประเทศชาติไทย และประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อการท้องเที่ยวของไทยด้วย จึงขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะดีกว่า ซึ่งเมื่อจับกุมตัวผู้ต้องหามาแล้วก็ให้ดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนต่อไป ส่วนจะฟ้องศาลหรือไม่ก็ว่ากันไป ถ้าคนนี้ไม่ใช่ก็ไปจับคนใหม่ที่ใช่มาอย่างนี้จะดีกว่า ไม่เช่นนั้นเรื่องก็ไม่จบ เรื่องนี้ตนไม่ได้เข้าข้างใคร แต่ผิดถูกต้องไปว่ากันมาตามข้อเท็จจริง
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th