นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่สื่อต้องช่วยกัน คือต้องสร้างการรับรู้ว่าคนเหล่านี้ทำไมใช้ความรุนแรงกับเราแบบนี้ เพราะอะไร เพราะเราไปฝืนใจหรือไปบังคับเขาหรือไม่ พร้อมกล่าวย้ำว่า รักทุกคนที่อยู่ในพื้นที่มาโดยตลอด เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง รัฐบาลก็พยายามปรับแก้ให้เป็นวาระแห่งชาติ และให้หน่วยงาน กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา 7 ยุทธศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน การพัฒนา การสร้างความเข้าใจ และอื่น ๆ
รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไข ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก เพราะต้องต่อสู้กันทางความคิด มีการปลุกระดมในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาซึ่งต้องแก้ทั้งหมด ส่วนการเจรจานั้น ยังไม่ได้พูดกันเรื่องสันติภาพ เพราะไม่ได้กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นศัตรู ถือเป็นคนไทยมุสลิม นับถือศาสนาอิสลาม และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จไปทุกพื้นที่ และทรงรับสั่งเสมอว่า “คนใต้เป็นคนน่ารัก เป็นคนมีฝีมือ ปักเย็บอะไรก็ชนะได้ที่หนึ่ง ไม่มีภาคไหนปักผ้าสวยได้เท่าภาคใต้”
นายกรัฐมนตรีทราบดีว่า คนในพื้นที่ภาคใต้ก็ต้องการความสงบสุข ส่วนคนที่ก่อเหตุเราก็จะต้องสร้างคนเหล่านี้ให้เข้มแข็งด้วยการพัฒนา ส่วนกลุ่มคนที่ก่อเหตุเผาโรงเรียนนั้น ได้รับรายงานว่ามีจำนวน 40 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตาม และ ผบ.ทบ. ดูแลอยู่ และยืนยันว่าภาคใต้ไม่มีพื้นที่สีแดง มีแต่พื้นที่ความมั่นคง 136 หมู่บ้าน 3 จังหวัด 4 อำเภอ มี 2 พันกว่าหมู่บ้าน แบ่งออกเป็น 3 เกรด 1.พื้นที่ที่มีเหตุเกิดขึ้น 136 หมู่บ้านระดับกลาง 1 พัน เกือบ 2 พันหมู่บ้าน ที่เหลือเป็น 2.หมู่บ้านพัฒนาเพื่อความมั่นคง และ 3. พัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ ไม่มีการบาดเจ็บสูญเสีย วันนี้เหลือ 136 หมู่บ้านที่ไม่เกิดทุกวัน ซึ่งต้องให้เวลาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหา ส่วนสันติสุขก็หารือกัน เร่งในเรื่องของการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา อาชีพและรายได้ แต่ทั้งนี้ ไม่ใช้เฉพาะภาคใต้ รัฐบาลได้ดำเนินการเป็นทุกพื้นที่
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th