พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวให้โอวาทและอวยพรแก่เยาวชนไทยที่จะไปร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 10 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมี พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้นำคณะเยาวชนจำนวน 41 คน เข้ารับโอวาท ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า ต้องขอชื่นชมทุกคนที่ได้เตรียมตัวฝึกซ้อมกันมาอย่างเต็มที่เพื่อที่จะได้เข้าไปร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ฝีมือแรงงานเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ที่แสดงให้เห็นศักยภาพการแข่งขันด้านฝีมือและความสามารถเฉพาะด้าน ปัจจุบันเยาวชนไทยนั้นมุ่งเรียนแต่เฉพาะด้านอุดมศึกษามากกว่าสายอาชีพ เราจึงต้องปรับปรุงยุทธศาสตร์ของการศึกษาให้เกิดความสมดุลระหว่างสองเส้นทาง เพราะสายอาชีพจะพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและมีความชำนาญในงานฝีมือเฉพาะด้าน สามารถที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศชาติและนานาประเทศได้เป็นส่วนรวม อีกทั้งจะเป็นฐานการผลิตที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนทรัพยากรแรงงานให้กับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ขอให้ทุกท่านได้ทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนของประเทศไทยให้ดีที่สุด เพื่อแสดงศักยภาพให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของชาวต่างชาติ สมกับที่ทุกคนได้อดทนหมั่นฝึกซ้อมและพัฒนาทักษะตลอดมา ความพยายามของทุกคนคือแรงผลักดันที่จะทำให้ประสบความสำเร็จนำความภาคภูมิใจและชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย
นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียนเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งจัดให้มีการแข่งขันทุก 2 ปี โดยประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพมาแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 3 และครั้งที่ 8 สำหรับครั้งที่ 10 จัดขึ้น ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีกำหนดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 19 - 29 ตุลาคมนี้ เพื่อพัฒนาทักษะการประกอบอาชีพและค่านิยมที่ดีของการทำงานในกลุ่มเยาวชน นักเรียนอาชีวศึกษา และแรงงานฝีมือ ส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกร่วมกันทั้งในการศึกษาและฝึกอบรมด้านอาชีพ กระตุ้นให้เกิดความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม องค์กรนายจ้างและลูกจ้าง อีกทั้งสถานศึกษาด้านวิชาชีพต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นเวทีที่สร้างการยอมรับในความเป็นเลิศด้านฝีมือ อีกทั้งช่วยพัฒนาแรงงานรุ่นใหม่ให้มีฝีมืออยู่ในระดับสูงมีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล
สำหรับปีนี้คาดว่าเยาวชนไทยจะสามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ 5 - 6 เหรียญ ซึ่งเงินรางวัลที่เยาวชนจะได้รับจากการแข่งขัน คือ เหรียญทอง 150,000 บาท เหรียญเงิน 75,000 บาท เหรียญทองแดง 40,000 บาท ประกาศนียบัตร (รางวัลชมเชย) 20,000 บาท ส่วนคู่แข่งที่น่าจับตามอง คือ ประเทศเจ้าภาพ อย่างไรก็ตาม
ขอเชิญชวนชาวไทยร่วมส่งกำลังแรงใจ ร่วมเชียร์เยาวชนไทยที่จะเข้าแข่งขันทุกคนให้สามารถคว้าชัยชนะกลับมาสู่ประเทศไทยเพื่อความภาคภูมิใจ
กลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ที่มา: http://www.thaigov.go.th