นายกรัฐมนตรีเชื่อความเชื่อมโยงทางการเงินและเศรษฐกิจระหว่างเอเชีย-ยุโรป จะเพิ่มโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ

ข่าวทั่วไป Thursday October 16, 2014 14:14 —สำนักโฆษก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 อย่างเป็นทางการ โดยกล่าวถ้อยแถลงระหว่างการประชุมเต็มคณะ ในหัวข้อ “การส่งเสริมความร่วมมือทางการเงินและเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างยุโรป-เอเชีย

วันนี้ (16 ต.ค. 57) เวลา 14.00 น. ณ Milan Congress พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 อย่างเป็นทางการ โดยกล่าวถ้อยแถลงระหว่างการประชุมเต็มคณะ ในหัวข้อ “การส่งเสริมความร่วมมือทางการเงินและเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างยุโรป-เอเชีย” ณ นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยเป็นสถานที่จัดการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 1 และยังคงมีส่วนร่วมในการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสองภูมิภาคตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จากสถานการณ์โลกที่มีความซับซ้อน จึงต้องมีการทบทวนยุทธศาสตร์ที่จะส่งเสริมความร่วมมือทั้งทางด้านการเงินและเศรษฐกิจ โดยพัฒนาความเชื่อมโยงระหว่างเอเชีย-ยุโรปให้มากยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีย้ำในที่ประชุมอาเซมว่า การขยายความเชื่อมโยงระหว่างเอเชีย-ยุโรป ต้องอาศัยภาวะความเป็นผู้นำทางการเมือง ยึดมั่นพันธกิจระหว่างประเทศ รวมทั้งความรู้ความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านทรัพยากรและการลงทุน โดยเสนอยุทธศาสตร์การดำเนินการ 3 ด้านหลัก คือ ประการแรก การเพิ่มบทบาทความเป็นหุ้นส่วนกับเอเชีย สร้างระบบเศรษฐกิจที่เป็นหนึ่งเดียว มีการร่วมระดมทุน การร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค เอเชีย การถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์และเทคโนโลยี ซึ่งไทยเองก็มีโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อพัฒนาการขนส่งสินค้า บริการและแรงงาน เพื่อเปิดตลาดการค้าใหม่ๆ รองรับประชาคมอาเซียนและความร่วมมือเอเชีย-ยุโรปในอนาคต พร้อมพัฒนายุทธศาสตร์เส้นทางการค้าใหม่ๆ

ประการที่สอง การบริหารจัดการความเสี่ยง ที่อาจเกิดจากความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค โดยมีการพัฒนากระบวนการยุติธรรมและกฏหมายระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และความมั่นคง เพื่อการพัฒนาและความร่วมมือที่ยั่งยืน

ประการที่สาม การขยายความตกลงการค้าเสรีระหว่างเอเชียและยุโรป เช่นเดียวกับการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก โดยให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจได้มีการหารือกัน

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้ย้ำต่อที่ประชุม ให้ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนอาหารและพลังงานในอนาคต จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความต้องที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ประเทศในเอเชียและอาเซียน เป็นแหล่งผลิตอาหารและพลังงานที่สำคัญ ดังนั้น ทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรมนุษย์ คือ เกษตกร ต้องได้รับการดูแล ทั้งรายได้ ราคาสินค้าเกษตร ลดความเหลื่อมล้ำสร้างความมั่นคงในอาชีพ พร้อมทั้งส่งเสริมการวิจัยด้วย

กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ / สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ