กล่าวว่า ครูและวิทยากรอิสลามศึกษาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาในพื้นที่มาโดยตลอด ในการเข้าพบ รมช.ศธ.ครั้งนี้ ก็เพื่อหาวิธีการร่วมกันในการแก้ไขปัญหา และให้ประชาชนในพื้นที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ครูสอนศาสนาอิสลามเป็นตัวเชื่อมระหว่างโรงเรียนกับชุมชน เนื่องจากเป็นบุคคลในพื้นที่และเป็นผู้มีความรู้ด้านศาสนาอิสลาม จึงมีข้อเสนอแนะในประเด็นต่างๆ ดังนี้
ให้มีการพัฒนาครูสอนอิสลามศึกษา วิชาอิสลามศึกษา เป็นวิชาหนึ่งในกลุ่มสาระสังคมศึกษาที่มีการสอนศาสนาอิสลาม 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ครูผู้สอนไม่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น วิธีการและเทคนิคการสอนที่ทันสมัย เหมาะกับการสอนผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 หากครูผู้สอนไม่ได้รับการพัฒนา อาจจะยากต่อการสอนผู้เรียนให้มีคุณภาพทัดเทียมอารยประเทศ รวมถึงการสอนให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม อยู่ในกรอบของศาสนา และสามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุขได้
ขอให้ครูและวิทยากรอิสลามศึกษาที่เป็นพนักงานราชการได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับครูผู้สอน จึงได้เสนอให้ครูและวิทยากรที่เป็นพนักงานราชการ จำนวน 689 อัตรา ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการในโรงเรียนเดิม ไม่ต้องย้ายไปบรรจุที่โรงเรียนอื่น ในฐานะครูสอนศาสนาอิสลามประจำโรงเรียน เหมือนกลุ่มสาระวิชาอื่นที่จำเป็นต้องมีครูประจำวิชาในโรงเรียน
ขอให้วิทยากรรายชั่วโมงที่ไม่จบปริญญาตรีได้รับการบรรจุเป็นพนักงานราชการ เสนอให้วิทยากรอิสลามศึกษารายชั่วโมงที่ไม่จบปริญญาตรี ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานราชการ จำนวน 269 คน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่วิทยากรกลุ่มดังกล่าว
การห้ามรับวิทยากรสอนอิสลามศึกษารายชั่วโมงเพิ่มมีแนวปฏิบัติที่ว่า หากมีครูสอนอิสลามศึกษาที่เป็นวิทยากรรายชั่วโมงลาออก ห้ามมิให้รับเพิ่ม ทำให้บางโรงเรียนไม่มีครู/วิทยากรอิสลามศึกษา
พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศธ. กล่าวแสดงความยินดีในการพบปะหารือกับผู้แทนจากชมรมครูวิทยากรอิสลามศึกษา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้มานำเสนอข้อมูลและปัญหาจากการดำเนินงานที่ผ่านมา เพราะนโยบายของรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก โดยได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ
สำหรับข้อเสนอของชมรมฯ ก็จะมอบ สพฐ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการ เพื่อให้มีครูและวิทยากรอิสลามศึกษามีความก้าวหน้าและความมั่นคงมากขึ้น รวมทั้งเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานอย่างเข้มแข็งต่อไป และขอให้ประธานชมรมฯ ชี้แจงและสร้างความเข้าใจให้กับสมาชิกด้วย เพื่อความสบายใจว่าจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ โดยในวันที่ 15 ตุลาคม 2557 จะมีการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ก็จะนำเรื่องที่หารือในครั้งนี้ไปชี้แจงต่อที่ประชุมรับทราบและพิจารณาร่วมกันด้วย เพื่อให้เป็นการทำงานที่ประสานสอดคล้องกัน ทั้งนี้การขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินหน้าอย่างเข้มแข็ง ต้องแก้ไขปัญหาด้วยความร่วมมือร่วมใจ สร้างพลังใจ และเป็นกำลังใจต่อกัน
ในโอกาสใกล้ถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม เชื่อว่าประชาชนคนไทยมีความคิดเดียวกันคือ ความมุ่งมั่นที่จะทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยกัน จึงขอเชิญชวนให้ร่วมกันทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระโอสถให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ เพื่อให้ทรงพอพระราชหฤทัยที่จะเห็นคนไทยร่วมกันทำงาน
กุณฑิกา พัชรชานนท์
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน Published 15/10/2557
ที่มา: http://www.thaigov.go.th