ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้ นายไพศาล ชื่นจิตร รองอธิบดี นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม และนายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปราม โดยให้สนธิกำลังและงานการข่าวกับกองบังคับการตำรวจน้ำ
ต่อมาเมื่อเวลา 15.45 น. ของวันพุธ ที่ 15 ตุลาคม 2557 นายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 และ พตอ.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ สามารถจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ ฐานิศร สัญชาติไทย ขนาดความยาว 24 เมตร ความกว้าง 4 เมตร มีนายชานนท์ มะลิฉ่ำ เป็นผู้ควบคุมเรือ นายนพดล แก้วชมภู ช่างเครื่อง และลูกเรือนายสมเกียรติ ศรีทิพย์ 1 คน โดยเรือลำดังกล่าวบรรทุกน้ำมันเตาลักลอบหนีศุลกากร จำนวนรวม 8๐,๐๐๐ ลิตร มูลค่าประมาณ 1,600,000 บาท มูลค่าของกลางรวมทั้งเรือ และน้ำมันประมาณ 5,000,000 บาท เหตุเกิดบริเวณ ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ถนนบางปะกง - ฉะเชิงเทรา ไปทางต้นน้ำ 500 เมตร ตำบลบางปะกง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมันเตา หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตาม ตามมาตรา 27 , 27 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบกับมาตรา 16, 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 จึงได้ยึดน้ำมันและเรือบรรทุกน้ำมัน เป็นของกลาง พร้อมจับกุมตัวลูกเรือทั้ง 3 คน เป็นผู้ต้องหานำส่งกรมศุลกากรเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th