นายกรัฐมนตรีกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมเต็มคณะ ช่วงการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ (Retreat Session)

ข่าวทั่วไป Friday October 17, 2014 13:47 —สำนักโฆษก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “การส่งเสริมการหารือและความร่วมมือระหว่างเอเชีย-ยุโรป และแนวทางการดำเนินงานของ ASEM ในอนาคต”

วันนี้ (17 ต.ค. 57) เวลา 09.30 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “การส่งเสริมการหารือและความร่วมมือระหว่างเอเชีย-ยุโรป และแนวทางการดำเนินงานของ ASEM ในอนาคต” ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมผุ้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 ณ Milamo Congres นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภูมิภาคต่างๆ ทั้งเอเชียและยุโรป กำลังเผชิญกับภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ

ผู้นำทางการเมืองจึงต้องมีความมุ่งมั่นทางการเมือง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ไทยเองได้การบริจาคข้าวให้แก่ประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคอีโบลา พร้อมจะให้การสนับสนุนตามขีดความสามารถของไทย ที่ผ่านมาประเทศไทยและประเทศเอเชีย เผชิญวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคซาร์สและไข้หวัดนก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ทำให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงัก ส่งผลต่อการท่องเที่ยว ประเทศไทยจีงได้จัดการประชุมผู้นำว่าด้วยการแพร่ระบาดของโรคซาร์และไข้หวัดนก เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำในการแก้ปัญหาและฟื้นฟูความเชื่อมั่น

การขยายตัวของลัทธิอุดมการณ์สุดโด่ง เป็นปัญหาเร่งด่วน ซึ่งไทยสนับสนุนข้อมติของสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความรุนแรง ความขัดแย้ง เกิดจากความยากจน ความรู้สึกไม่เท่าเทียม สร้างความโกธรแค้น จึงต้องมีการแก้ปัยหาจากต้นเหตุ ได้แก่ความยากจน ความเหลื่อมล้ำและความอยุติธรรมในสังคม

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทยว่า ประเทศไทยยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ค่านิยมประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน เดินหน้าปฏิรูป เพื่อให้ประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เข้มแข็งยั่งยืนให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนไทยและประชาคมโลก โดยรัฐบาลใช้การระเบียบราชการปกติในการบริหารประเทศ เพื่อยุติความขัดแย้ง จัดระเบียบภายใน รัฐบาลเดินหน้าเรื่องการสร้างความปรองดองและการปฏิรูปการเมืองอย่างจริงจัง ตามแผนปฏิบัติการ (Roadmap) เปิดกว้างให้ทุกฝ่ายสามารถมีส่วนร่วม ให้ความสำคัญกับหลักธรรมภิบาล ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการปฏิรูปประเทศ โดยเร่งเดินหน้าการปฏิรูปอย่างรวดเร็วใน 11 ด้าน ซึ่งพร้อมที่จะเรียนรู้จากประสบการณืและแนวปฏิบัติที่ดีจากยุโรป และมิตรประเทศ

รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนการปฏิรูปทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และยังคงมีบทบาทอย่างแข็งขันในภูมิภาค ประเทศไทยที่เข้มแข็งจะนำไปสู่อาเซียนที่เข้มแข็ง และอาเซียนยังคงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค รวมทั้งการเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งของสหภาพยุโรปและภูมิภาคยุโรปโดยรวม

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ ASEM ในปี 2016 ซึ่งตรงกับวาระการฉลองครบรอบ 20 ปี แห่งการก่อตั้ง ASEM ซึ่งจะมีการกำหนดทิศทางของ ASEM ในอนาคตต่อไป

กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ