วันนี้ ( 17 ต.ค. 57 ) เวลา 08.30 น.(เวลาท้องถิ่น) ณ โรงแรมที่พัก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงผลการประชุมสุดยอดผู้นำเอเซีย-ยุโรปและการหารือทวิภาคีกับผู้นำประเทศต่าง ๆ ในวันแรกของการประชุม ว่า มีประเทศผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 53 ประเทศ โดยการประชุมแบ่งเป็นหลายช่วง เริ่มจากการประชุมผู้นำอาเซียนสหภาพยุโรปอย่างไม่เป็นทางการในประเด็นความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม การเชื่อมโยงระหว่าง 2 ภูมิภาค
สำหรับการประชุมผู้นำเอเซีย-ยุโรป ครั้งที่10 เต็มคณะ นายกรัฐมนตรีได้เสนอยุทธศาสตร์การดำเนินการ 3 ด้านหลัก ได้แก่การเพิ่มบทบาทความเป็นหุ้นส่วนระหว่างเอเซีย-ยุโรป การบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค และการขยายความตกลงการค้าเสรีเอเซีย- ยุโรปซึ่งต้องอาศัยความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการขาดแคลนอาหารและพลังงานในอนาคต อันเนื่องมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นและปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่มีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งต้องร่วมกันเตรียมการรองรับ
สำหรับการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้นำประเทศอาเซียนนั้น ผู้นำทุกประเทศกล่าวว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของอาเซียน เนื่องจากประเทศไทยมีเสถียรภาพ และมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า วันนี้คิดว่าโลกเข้าใจมากขึ้น มั่นใจมากขึ้น ทุกประเทศต้องการเข้ามาลงทุนมากขึ้น ประเทศญี่ปุ่นและจีนให้ความสนใจพร้อมสนับสนุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า การเจรจาต้องโปร่งใส และเปิดเผย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า เราคนไทยต้องคิดเรื่องการค้าการลงทุนอย่าเอาความขัดแย้งมาเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ ชอให้ภูมิใจในความเป็นคนไทย โดยสรุปการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งนี้ได้รับการยอมรับอย่างสมเกียรติ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th