นายกรัฐมนตรียืนยันขณะนี้ประเทศไทยยังไม่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไว้รัสอีโบลา

ข่าวทั่วไป Saturday October 18, 2014 13:50 —สำนักโฆษก

วันนี้ (18 ต.ค.57) เวลา 11.10 น. ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมป้องกันโรคติดเชื้อไว้รัสอีโบลาว่า ประเทศไทยโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้มีการเตรียมพร้อมการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างเต็มที่ รวมทั้งมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยยังไม่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไว้รัสอีโบลาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขอประชาชนคนไทยอย่าได้ตื่นตระหนกจนเกินไปต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวยืนยันไม่เคยรู้สึกท้อแท้ในการเข้ามาทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินเพื่อประเทศชาติและประชาชน ซึ่งเมื่อได้ตัดสินใจเข้ามาแล้วก็จะทำให้สำเร็จ และขอคนไทยทุกคนอย่าท้อแท้และให้ร่วมมือกันทุกภาคส่วนเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เพราะหากประเทศมีเสถียรภาพและมีความมั่นคงแล้วต่างประเทศก็พร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ในช่วงที่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินก็เริ่มมีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการสร้างแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นให้ต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการลงทุนดังกล่าวต้องสอดคล้องและตรงกับความต้องการของประชาชนในประเทศไทยเป็นสำคัญ ทั้งในเรื่องของพลังงาน การแปรรูปอาหาร การสร้างนวัตกรรมใหม่ การพัฒนาโรงงานขนาดย่อม SMEs และผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและเพิ่มมูลค่าผลผลิตสามารถส่งออกได้ในราคาที่สูงขึ้น พร้อมทั้งขอให้ทุกคนน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่และดำรงชีวิตมีความพอประมาณ เหมาะสม มีเหตุมีผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาตนเองต่อไป ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะขับเคลื่อนการทำงานทั้งหมดอย่างเต็มที่ รวมถึงการดำเนินการและบริหารจัดการในเรื่องของเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสมดุลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

รวมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า หากคนไทยแสดงความคิดเห็นที่เป็นทัศนคติที่ดีภายใต้สถานการณ์ของบ้านเมืองที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ความสงบเรียบร้อยก็จะทำให้ไม่มีความขัดแย้งอีกต่อไป ขณะเดียวกันประเทศไทยต้องมีการเตรียมความพร้อมของทรัพยากรบุคคลในด้านต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเรื่องภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558

พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการพบปะหารือกับผู้นำประเทศอังกฤษถึงการดำเนินการเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวที่เกาะเต่าว่า ผู้นำอังกฤษมีความเข้าใจและไม่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบกระบวนการความยุติธรรมของประเทศไทย เพียงแต่ประชาชนประเทศอังกฤษได้รับทราบข้อมูลข่าวจากสื่อแล้วมีความสงสัยต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งตนเองได้ชี้แจงว่า ประเทศไทยได้มีการดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย โดยทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปร่วมกันคือประเทศอังกฤษจะมีการส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของประเทศไทยขณะนี้ก็มีการดำเนินในการเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว โดยกระทรวงการต่างประเทศ สถานทูต และเจ้าหน้าที่ตำตรวจ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการสร้างความเข้าใจ และสร้างมาตรฐานให้ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย โดยขอร่วมมือสื่อมวลชนในประเทศไทยให้ช่วยกันทำความเข้าใจกับสื่อต่างประเทศผ่านการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องอีกทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งและส่งผลกระทบต่อส่วนรวม ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน

อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความห่วงใยต่อปัญหาหนี้นอกระบบว่า ทุกคนต้องไปดูและน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ การใช้จ่ายต้องเป็นไปอย่างมีเหตุมีผล พอประมาณ และเหมาะสมกับตนเอง ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ส่วนการบูรณาการการทำงานของศูนย์ดำรงธรรมเกี่ยวกับการรับเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์ดำรงธรรมเป็นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นในแต่ละพื้นที่ทั้งในส่วนของอำเภอ จังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ก่อนส่งปัญหาที่ไม่สามารถดำเนินการได้เข้ามายังรัฐบาล กระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป ทั้งนี้รัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว แบ่งเป็นระดับต่าง ๆ ดังนี้ 1) ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของรัฐบาล 2) ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของทุกกระทรวง 3) ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด และ4) ศูนย์เชื่อมต่อบูรณาการของกระทรวงการต่างประเทศ โดยรัฐบาลจะขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ