นายธีระพงษ์ ระบุด้วยว่า อัตราค่าโดยสารใหม่นั้น เป็นการปรับเพื่อให้สอดคล้องและสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยให้ความเป็นธรรมทั้งกับผู้ใช้บริการ ผู้ประกอบการรถแท็กซี่และคนขับรถแท็กซี่ส่วนบุคคล โดยได้มีการวิเคราะห์จากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทุกด้าน เช่น ค่าแรงคนขับ, ค่าตัวรถ/ค่าเช่า, ค่าเชื้อเพลิง CNG, ค่าซ่อมบำรุงรักษารถและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าอัตราค่าโดยสารใหม่นี้จะสร้างความเป็นธรรมและช่วยให้กลไกทางการตลาดสามารถพัฒนาการให้บริการรถแท็กซี่ต่อไปอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อผู้ใช้บริการรถแท็กซี่ จะแบ่งการปรับอัตราค่าโดยสารเป็น 2 ระยะ โดยในระยะที่ 1 รถแท็กซี่ทุกคันต้องผ่านการตรวจสอบและประเมินคุณภาพตัวรถในเบื้องต้นก่อน และจะมีการประเมินผลความพึงพอใจของประชาชนในการใช้บริการรถแท็กซี่ เพื่อประกอบการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารระยะที่ 2 ต่อไป
การตรวจมาตรฐานคุณภาพบริการรถแท็กซี่มิเตอร์ก่อนการปรับราคาในระยะที่ 1 จะเริ่มต้นจากการตรวจมาตรฐานคุณภาพตัวรถที่ใช้ในการให้บริการ อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต้องมีสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน แอร์ต้องเย็นทั่วถึง ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกตำแหน่งที่นั่งและพร้อมใช้งาน เบาะที่นั่ง ไม่ชำรุด ติดบัตรประจำตัวทั้งด้านหน้ารถและเบาะหลังรถ ไฟหน้า ไฟท้าย ยางรถต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สภาพภายในและภายนอกต้องสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นอับ หลังจากการตรวจสอบแล้วกรมการขนส่งทางบกจะออกเอกสารผ่านมาตรฐาน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการนำรถเข้าสู่กระบวนการปรับมาตรค่าโดยสารต่อไป แต่หากไม่ผ่านก็ต้องนำตัวรถไปแก้ไขให้สมบูรณ์ภายใน 15 วันและนำกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้ รถที่ผ่านมาตรฐานจะดำเนินการปรับมาตรค่าโดยสารและต้องนำรถเข้ารับการตรวจสอบเพื่อซีลตะกั่วที่มาตรค่าโดยสารจากกรมการขนส่งทางบก ก่อนออกสติ๊กเกอร์รับรองคุณภาพ เพื่อแสดงถึงการผ่านการตรวจมาตรฐานคุณภาพบริการรถแท็กซี่และใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ในระยะที่ 1 สำหรับในระยะที่ 2 กรมการขนส่งทางบกจะตรวจประเมินการให้บริการของแท็กซี่ ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องมีใบอนุญาตขับรถสาธารณะทุกคน แต่งกายสุภาพ สะอาด ไม่ปฏิเสธผู้โดยสารและต้องใช้มาตรค่าโดยสารทุกครั้ง สำหรับในส่วนของผู้ประกอบการ จะต้องจัดส่งประวัติผู้ประจำรถทันทีและทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง ต้องไม่ให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถแท็กซี่มาขับรถ และที่สำคัญต้องดูแลสภาพรถให้พร้อมใช้งาน มีอุปกรณ์ ส่วนควบถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกจะตรวจสอบประเมินคุณภาพบริการรถแท็กซี่มิเตอร์อย่างต่อเนื่องและจริงจังด้วยการจัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ย่านชุมชนที่มีการจราจรหนาแน่นชานเมือง และสถานีขนส่งผู้โดยสาร รวมทั้งเปิดรับข้อคิดเห็นผ่าน 1584 และช่องทางต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลมาประเมินผลประกอบการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารระยะที่ 2 ต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th