พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงผลงานรอบ ๑ เดือน ย้ำภารกิจตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้ เพื่อคนไทยทุกคนมีงานทำ แก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบและยั่งยืน และบริหารราชการอย่างโปร่งใส โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์ Smart Job Center เปิดให้บริการประชาชนทุกด้านของกระทรวงแรงงานขึ้นบริเวณตึกหน้ากระทรวงแรงงาน ได้ก่อน ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ และจะครบทุกด้านการให้บริการก่อนเดือนกันยายน ๒๕๕๘ และพร้อมขยายลงพื้นที่ทุกจังหวัดต่อไป เบื้องต้นเปิดให้บริการด้าน E – Job ได้ก่อน นอกจากนี้จากข้อมูลล่าสุดการสำรวจของกองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน พบว่ามีประชาชนผู้ว่างงานอยู่ประมาณ ๓ แสนคน ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยลดความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้นำเอาระบบการจัดหางานออนไลน์มาใช้ในโครงการ “มองหางาน ต้องการคน” เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ว่างงานหรือต้องการเปลี่ยนงานได้มาพบกัน โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ซึ่งประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ผ่าน www.doe.go.th หรือเบอร์โทร ๑๖๙๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
สำหรับเรื่องของแรงงานต่างด้าว ๓ สัญชาติ อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบแนวทางการตรวจสัญชาติแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันทีตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ โดยในส่วนของกระทรวงแรงงานแรงงาน กรมการจัดหางาน จัดตั้งศูนย์บริการตรวจลงตรา และพิจารณาอนุญาตทำงานแรงงานเมียนมา ลาว กัมพูชา กำหนดให้ยื่นแบบคำขออนุญาตทำงาน (ตท.๒) ผ่านระบบ On – Line อนุญาตทำงานตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ เท่ากันทุกคน และจัดเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราที่กฎหมายกำหนด มีการบันทึกข้อมูล และจัดเก็บข้อมูลการอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างพาแรงงานต่างด้าวไปดำเนินการตามกระบวนการตรวจสัญชาติ โดยให้กรมการปกครองจัดส่งข้อมูลให้กรมการจัดหางานเพื่อดำเนินการต่อไป
สำนักงานประกันสังคม ดำเนินการให้แรงงานต่างด้าวที่ผ่านการตรวจสัญชาติและได้รับอนุญาตทำงานเข้าสู่ระบบประกันสังคมตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็จะได้ดำเนินการตามบทบาท อาทิ กระทรวงมหาดไทย ก็จะจัดเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา รับรองเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ฯลฯ สำหรับกระทรวงการต่างประเทศ มอบอำนาจให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจตรวจลงตราแก่แรงงานและผู้ติดตาม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจลงตราตามที่ได้รับแจ้งจากกรมการจัดหางาน กระทรวงสาธารณสุข แรงงานที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคมให้ซื้อบัตรประกันสุขภาพเพิ่มเติม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่อนผันปราบปราม จับกุมดำเนินคดี นายจ้าง แรงงานที่อยู่ระหว่างการตรวจสัญชาติ ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘ รวมถึงแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานในกิจการประมง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ที่เห็นชอบให้มีการจดทะเบียน ปีละ ๒ ครั้ง ใบอนุญาตสิ้นสุดวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๗ เห็นควรให้ไปจดทะเบียน ณ ศูนย์ One Stop Service และเข้าสู่กระบวนการตรวจสัญชาติต่อไป และใบอนุญาตสิ้นสุดวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๘ เห็นควรเข้าสู่กระบวนการตรวจสัญชาติ
ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายในการตรวจสัญชาติและออกใบอนุญาตทำงาน ทางการไทยกำหนด ๑,๕๐๐ บาท ทั้ง ๓ สัญชาติเท่ากันหมด เป็นค่าตรวจดวงตราวีซ่า ๕๐๐ บาท คำขอรับใบอนุญาต ๑๐๐ บาท และค่าใบอนุญาตทำงาน ๙๐๐ บาท สำหรับค่าจัดทำหนังสือเดินทาง เมียนมา ๑,๖๐๐ บาท ลาว ๑,๕๐๐ บาท และกัมพูชา ๑,๔๐๐ บาท ส่วนการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศในระบบรัฐต่อรัฐ ช่วง ๖ เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนตุลาคม สามารถจัดส่งแรงไทยไปต่างประเทศได้จำนวน ๕,๖๙๘ คน ซึ่งในยอดรวมทั้งหมดของแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศมีจำนวน ๓๗๗,๐๐๐ คน สามารถนำรายได้เข้าประเทศแปดหมื่นแปดพันล้านบาท
สำหรับการส่งเยาวชนไทยจำนวน ๔๑ คน เข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ ๑๐ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมเวียดนาม แข่งขันใน ๒๑ สาขา จากทั้งหมด ๒๕ สาขา ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ เยาวชนไทยสามารถคว้าเหรียญทองได้ ๗ เหรียญ ใน ๖ สาขา ได้แก่ สาขาแมคคาทรอนิกส์ แต่งผม ปูกระเบื้อง บริการอาหารและเครื่องดื่ม เทคโนโลยีงานเชื่อม และเขียนแบบและออกแบบเครื่องกลด้วยคอมพิวเตอร์ เหรียญเงิน ๑ เหรียญ เหรียญทองแดง ๕ เหรียญ จาก ๔ สาขา และประกาศนียบัตรฝีมือยอดเยี่ยม (รางวัลชมเชย) ๑๒ ใบ โดยเยาชนที่ได้รับรางวัล กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จะมอบเงินรางวัลแบ่งเป็น เหรียญทอง ๑๕๐,๐๐๐ เหรียญเงิน ๗๕,๐๐๐ บาท เหรียญทองแดง ๔๐,๐๐๐ บาท และประกาศนียบัตรฝีมือยอดเยี่ยม ๒๐,๐๐๐ บาท
ในส่วนของร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล พ.ศ. .... โดยห้ามการใช้แรงงานอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี และตรวจครอบคลุมเรือประมงทุกลำ เรือที่ทำการนอกน่านน้ำเกิน ๑ ปีขึ้นไป รวมถึงมีการจัดทำสัญญาจ้างงานอย่างชัดเจน และนายจ้างต้องพาลูกจ้างมารายงานตัวอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการคุ้มครองในงานเกษตรกรรม พ.ศ. .... มีการแก้ไขอายุการใช้แรงงานเด็กจากอายุขั้นต่ำ ๑๓ ปี เป็นอายุขั้นต่ำ ๑๕ ปี และมิให้นายจ้างเรียกรับหลักประกัน ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากรองนายกรัฐมนตรีแล้ว รอเข้าสู่คณะรัฐมนตรี โดยจะผลักดันให้เข้าคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์น้า ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม ที่ได้มีการแก้ไขทั้งหมด ๔๕ มาตรา อาทิ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตน ขยายความคุ้มครองลูกจ้างภาครัฐ การแก้ไขคุณสมบัติคณะกรรมการประกันสังคม เพื่อให้การบริหารงานประกันสังคมเป็นไปอย่างโปร่งใสสามรถตรวจสอบได้ การลดรายจ่ายของนายจ้างและผู้ประกันตนเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติ โดยจะลดการจ่ายเงินสมทบเข้าประกันสังคมในพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติ โดยเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ คณะกรรมการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เห็นชอบที่จะให้นำร่างพระราชบัญญัติประกันสังคมเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณา คาดจะมีการพิจารณาในวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ และร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่...) พ.ศ. .... จะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๗
ที่มา: http://www.thaigov.go.th