พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากกรณีนางประภาพร สิงโตแก้ว อายุ ๓๐ ปี แม่ของ ด.ช.ศรัณยู ยอดสาลี หรือ น้องเวฟ อายุ ๙ ขวบ นักเรียนชั้น ป.๓ โรงเรียนวัดเสม็ด ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ เข้าแจ้งความและพยายามกระจายข่าวทางสื่อออนไลน์ต่างๆ จนได้รับข้อมูลว่าพบเด็กคล้ายน้องเวฟไปนั่งขอทานที่หน้าห้าง ในกรุงเทพฯ และที่ศรีราชา จ.ชลบุรี ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือครอบครัวของเด็กชายแล้ว พบว่าเด็กชายหน้าคล้ายที่มีผู้พบเห็นไม่ใช่น้องเวฟ และขณะนี้ได้พบตัวเด็กชายแล้ว ซึ่งคนที่พาตัวเด็กชายไปเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และกรณีที่สังคมออนไลน์ มีการแชร์เรื่องราว ขอความช่วยเหลือคุณตาทวีศักดิ์ มินฮาซัน อายุ ๖๗ ปี ป่วยหนักเป็นโรคไซนัสและภูมิแพ้กำเริบอย่างรุนแรง จนกระทั่งลามเข้าไปในโพรงจมูกและดวงตา ทำให้ดวงตาทั้ง ๒ ข้างบอดสนิท ทางบ้านมีฐานะยากจน ไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาล ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องตน และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลต่อไป ส่วนกรณีพบสองแม่-ลูก อาศัยอยู่ในแพไม้เก่านานกว่า ๒๐ ปี สภาพพุผังใกล้จมน้ำกลางเขื่อนสิริกิติ์ โดยผู้เป็นแม่มีรายได้เพียงวันละ ๕๐-๑๐๐ บาท จากการลงข่ายดักปลา ทั้งยังต้องเก็บออมเป็นค่าเล่าเรียนของลูกชายวัย ๙ ขวบ ที่ จ.อุตรดิตถ์ จากกรณีนี้ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กชายต่อไป
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ส่งผลให้ทารกถูกทิ้งรายวัน และปัญหาคนขอทาน ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยังคงให้ความสำคัญและติดตามผลอยู่ตลอด พร้อมเร่งดำเนินการขับเคลื่อนการหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th