พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากกรณีแม่วัย ๑๔ ปี พาลูกชายวัย ๔ เดือนเศษ ที่คลอดก่อนกำหนดร่างกายไม่แข็งแรง ไปโรงพยาบาล สุดท้ายแพทย์ช่วยไม่ทันลูกเสียชีวิต ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมเยียวยาสภาพจิตใจครอบครัวผู้เสียหาย และกรณีชายวัยกลางคน อุ้มลูกเล็ก ๒ คน เดินเร่รอนตากแดด หลังทะเลาะกับภรรยา แล้วโดนไล่ออกจากบ้าน มีเงินติดตัว ๑๗ บาท ที่จังหวัดสระบุรี ขณะนี้ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี (สนง.พมจ.สระบุรี) ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือในเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรับเข้ามาอยู่ในความดูแลชั่วคราว พร้อมเตรียมจัดหาอาชีพรองรับให้ ส่วนกรณี ด.ญ.วัย ๑๐ ขวบ สุดกตัญญูขาดเรียนเฝ้าแม่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้ายเพียงลำพัง นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานกว่า ๑ เดือน ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งตนได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือในด้านการรักษาพยาบาลของแม่ที่ป่วย และการศึกษาของเด็กหญิงต่อไป
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณี ด.ญ.วัย ๓ ขวบ มีปานดำเต็มแผ่นหลัง มีขนขึ้น ลามถึงด้านข้างและหน้าอก พ่อแม่ทิ้งให้ยายอายุ ๖๕ ปี เป็นผู้เลี้ยงดู ซึ่งยายมีฐานะยากจน ที่จังหวัดเพชรบุรี ตนจึงได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ลงพื้นที่ช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือในด้านการรักษาพยาบาล และกรณีการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ ช่อง ๘ รายการ "เพื่อนทุก(ข์)บ้าน” เมื่อวันที่ ๒๙ ต.ค. ๕๗ มีการนำเสนอกรณีชายชราวัย ๘๕ ปี ดูแลลูกชายวัย ๕๗ ปี ที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพียงลำพัง มีฐานะยากจน อาศัยอยู่ในเพิงไม้เก่าผุผังกลางทุ่งนา ที่จังหวัดราชบุรี ขณะนี้ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี (สนง.พมจ.ราชบุรี) ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือในเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรับเข้ามาอยู่ในความดูแลชั่วคราว พร้อมประสานเรื่องการรักษาพยาบาลของลูกชายพิการ
ทั้งนี้"ตนของชื่นชมการทำงานของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)และหน่วยงานในพื้นที่ ที่บูรณาการการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมให้ได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็วและครอบคลุม”พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวตอนท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th