โดยมีกำหนดการเดินทาง ดังนี้ วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2557 เยี่ยมชมโครงการพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดน่าน จุดที่ 1 ที่บ้านน้ำช้าง ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เยี่ยมชมโครงการตามแนวทางพระราชดำริ โดยมูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ ได้ดำเนินโครงการบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ 20 หมู่บ้าน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าวังผา อำเภอสองแคว และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยใช้แนวพระราชดำริ “คนอยู่กับป่า” เริ่มจากการแก้ปัญหามิติน้ำเพื่อให้ชุมชนสามารถนำน้ำมาใช้ได้ตลอดปี สามารถทำนาขั้นบันไดและพืชหลังนา ชาวบ้านอยู่รอดได้โดยไม่ต้องไปบุกรุกพื้นที่ป่า และเยี่ยมชมโครงการปลูกป่าตามแนวทางพระราชดำริ ปลูกป่า 3 อย่าง 4 ประโยชน์ ในพื้นที่ 2.5 แสนไร่ โดยชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมทุกขั้นตอน เพื่อฟื้นฟูและรักษาป่าอนุรักษ์ ป่าเศรษฐกิจ ป่าใช้สอย และชมการบริหารจัดการน้ำตามแนวทางพระราชดำริ การสร้างฝายอนุรักษ์ ฝายเกษตรและการส่งน้ำเข้าบ่อพวงและแปลงเกษตรด้วยระบบท่อ การปลูกข้าวในนาขั้นบันได การปลูกพืชหลังนา การรักษาผืนป่าของคนในชุมชน จุดที่ 2 ชมการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ การสร้างฝายเกษตรแบบลดการตัดไม้ ที่ฝายห้วยโป่ง ลุ่มน้ำขวาง บ้านมอน ตำบลวรนคร อำเภอปัว ซึ่งมีการดำเนินการสร้างฝายคอนกรีตเสริมเหล็กแทนฝายไม้แบบเดิมที่ต้องตัดไม้จากป่า
สำหรับในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2557 มีกำหนดการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี เพื่อเยี่ยมชมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยคล้าย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งจะกำหนดเป็นพื้นที่ต้นแบบในการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กในรูปแบบใหม่ คือ ทำเล็ก ประหยัด เกิดการขยายผลเร็วในวงกว้าง และได้ประโยชน์สูงสุด และเยี่ยมชมฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ และเยี่ยมเกษตรกรตัวอย่างที่มีการวางแผนการทำเกษตรกรผสมผสานและมีการถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรในชุมชน
จากนั้นจะเดินทางไปที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเยี่ยมชมศูนย์ประสานงานโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยประยุกต์แนวพระราชดำริแก้มลิง เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ซึ่งเป็นปัญหาหลัก อันเป็นความเดือดร้อนของเกษตรกรให้สามารถทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี โดยการขุดลอกแก้มลิงหนองเลิงเปือย โดยกองทัพภาคที่ 2 และกรมทหารช่าง เพื่อเป็นแหล่งน้ำการเกษตรให้แก่เกษตรในพื้นที่
ทั้งนี้ สำหรับกระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายให้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในภาคการเกษตรและชนบท โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกลไกในการกำกับดูแลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ให้บรรลุตามเป้าหมายสำคัญของในแต่ละพื้นที่ เพื่อขยายผลสู่พี่น้องประชาชนให้ได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งในเรื่องการทำกิน การแก้ไขปัญหาหนี้สิน การพัฒนาคุณภาพชีวิตยั่งยืน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th