นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรายงานผลการเสวนาและการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ดำรงธรรมของแต่ละจังหวัดภายใต้การดำเนินโครงการประสานความร่วมมือเพื่อบูรณาการการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งวันนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งศูนย์ดำรงธรรมของทุกกระทรวงและศูนย์ดำรงธรรมจากทุกจังหวัดทั่วประเทศเป็นอย่างดีในการส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยพร้อมเพรียง โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกมล สุขสมบูรณ์ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดโครงการฯ และมีการเสวนาร่วมกันเกี่ยวกับการทำงานของศูนย์ดำรงธรรม เพื่อบูรณาการการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดการเชื่อมโยงและให้การทำงานมีประสิทธิภาพเกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเชื่อมโยงการทำงานในครั้งนี้ด้วย เพื่อให้การทำงานสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน
โอกาสนี้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบายการดำเนินโครงการประสานความร่วมมือเพื่อบูรณาการการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ฯ แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับทราบรายงานจากที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงผลสรุปเกี่ยวกับการหารือและเสวนาในครั้งนี้ซึ่งทำให้เห็นภาพที่ชัดเจน รวมถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องการเห็นศูนย์บริการในระดับจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะศูนย์ดำรงธรรมมีความเป็นเอกภาพ ขณะเดียวกันกรณีการส่งบุคลากรมาประจำที่ศูนย์ฯ ขอให้พิจารณาผู้ที่มีจิตรักการให้บริการมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี พร้อมที่จะให้การต้อนรับและดูแลบรรเทาความทุกข์ยากให้กับประชาชนได้เกิดความสบายใจ เพราะข้าราชการทุกหน่วยงานต้องทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน ทั้งนี้ศูนย์ดำรงธรรมกระจายอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ถือเป็นผู้แทนของรัฐบาลที่จะช่วยคลี่คลายบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปอย่างทันท่วงที เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเวลาของประชาชนในพื้นที่ และที่จะต้องเดินทางมาร้องทุกข์ยังส่วนกลาง หรือทำเนียบรัฐบาลได้เป็นอย่างมาก
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงการทำงานและอุปสรรคปัญหาของศูนย์ดำรงธรรมแต่ละจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยความสนใจ รวมทั้งฝากเน้นย้ำกรณีการส่งเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไปประจำที่ศูนย์ดำรงธรรมแต่ละจังหวัด ขอให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวได้ปฏิบัติงานให้สอดคล้องและตรงกับหน้าที่ภารกิจของ สคบ. ตลอดจนการให้บริการและดูแลประชาชนอย่างแท้จริง รวมทั้งจะนำข้อคิดเห็นที่ทุกคนได้ให้ข้อเสนอแนะและหารือร่วมกันนำเสนอผู้บังคับบัญชาโดยเร็วต่อไป
พร้อมทั้งขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้แทนกระทรวงทั้ง 20 กระทรวงที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างสูงสุด รวมถึงขอฝากให้ทุกคนได้ร่วมมือกันช่วยประเทศไทยด้วยการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้หนักกลายเป็นเบาเพื่อให้ประเทศกลับฟื้นคืนสู่ความร่มเย็นเป็นสุขอย่างยั่งยืนตลอดไป
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th