อาเซียน-ออสเตรเลียร่วมฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ40 ปี เร่งส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และสร้างสายสัมพันธ์ระดับประชาชน

ข่าวทั่วไป Wednesday November 12, 2014 14:13 —สำนักโฆษก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ซึ่งเป็นการประชุมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 40 ปี แห่งความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย

วันนี้ เวลา 17.45 น. ห้อง Emerald Hall ศูนย์ประชุมนานาชาติเมียนมา (MICC 1) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ซึ่งเป็นการประชุมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 40 ปี แห่งความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลียและเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกในรอบ 3 ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนพัฒนาการของความร่วมมือ หารือแนวทางในการต่อยอดสำหรับทิศทางในอนาคต และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ภายหลังการประชุม ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับนายโทนี่ แอบบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในการประชุมอาเซียน-ออสเตรเลียสมัยพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลอง 40 ปีแห่งความสัมพันธ์ระหว่างกัน ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-ออสเตรเลียได้พัฒนาในทุกมิติ จนกลายเป็นความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ที่สามารถเป็นพื้นฐาน สำหรับการเสริมสร้างความมั่นคงของภูมิภาคได้ รวมทั้ง สร้างความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจให้กับสองภูมิภาคต่อไป

ไทยมีความภูมิใจที่ออสเตรเลียเป็นประเทศคู่เจรจาของอาเซียนประเทศแรกและปัจจุบัน ได้มีการขยายระยะเวลาโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาอาเซียน-ออสเตรเลีย ฉบับที่ 2 จากปี 2558 ออกไปถึงปี 2562 ซึ่งจะส่งเสริมกระบวนการสร้างประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อไป และช่วยสนับสนุนการลดช่องว่างของการพัฒนาให้กับประเทศสมาชิกอาเซียนได้

ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้นำเสนอทิศทางในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน ภายใต้แผนรับรองฉบับใหม่ในสามประเด็น ดังนี้

ประการแรก คือการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน

มูลค่าการค้าระหว่างอาเซียนและออสเตรเลียได้เพิ่มสูงขึ้นกว่าสองเท่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการที่เราได้จัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างสองภูมิภาค ปัจจุบันอาเซียนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ อันดับที่สองของออสเตรเลีย และมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นต่อไป การที่ทั้งสองฝ่ายร่วมลงนามพิธีสารแก้ไขความตกลงเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จะช่วยผลักดันให้ความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย พัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป

นอกจากนี้ ไทยหวังให้ออสเตรเลียมีบทบาทนำในการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ให้เสร็จสิ้นภายในปี 2558 ตามกำหนด และให้เกิดเขตเศรษฐกิจเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ประการที่ 2 คือ การส่งเสริมการระดมทุนสำหรับโครงการด้านความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน

ออสเตรเลียมีบทบาทอย่างยาวนานในเรื่องการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน หนึ่งในสัญลักษณ์นี้ คือ การที่ออสเตรเลียสนับสนุนเงินทุนในการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งแรก ซึ่งมีการฉลองครบรอบ 20 ปี ในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของออสเตรเลียที่ส่งเสริมการเชื่อมโยงตั้งแต่ต้น การสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในภูมิภาคนี้

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมโยงเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอาจสร้างปัญหาด้านความมั่นคงต่าง ๆ อาทิ การค้ามนุษย์ การค้ายาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย โรคระบาด ดังนั้น ไทยจึงให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความมั่นคงเหล่านี้ และชื่นชมบทบาทของออสเตรเลียด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ในภูมิภาคผ่านโครงการต่อต้านการค้ามนุษย์ของออสเตรเลีย-เอเชีย (Australia-Asia Program to Combat Trafficking in Persons - AAPTIP) ซึ่งหวังว่า อาเซียนจะเรียนรู้เพิ่มเติมจากออสเตรเลียในการป้องกันและจัดการกับปัญหาด้านความมั่นคงเหล่านี้

ประการที่สาม การแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์

ไทยสนับสนุนแผนโคลัมโบฉบับใหม่ (New Colombo Plan)ของออสเตรเลียเพื่อสร้างมิตรภาพและกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนอาเซียนกับออสเตรเลีย โดยเฉพาะด้านการศึกษา ซึ่งออสเตรเลียมีความโดดเด่นด้านการศึกษา จึงหวังว่า การแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างกันจะเพิ่มพูนมากขึ้น

ไทยยินดีที่จะเพิ่มพูนการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมกับออสเตรเลีย และพร้อมจะเป็นหุ้นส่วนกับออสเตรเลียเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ด้านการป้องกันและจัดการกับภัยพิบัติ และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยพัฒนาขีดความสามารถของอาเซียนในด้านเหล่านี้

ในตอนท้าย ไทยหวังว่า ออสเตรเลียในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่มีความใกล้ชิดกับอาเซียนมายาวนานจะส่งเสริมด้านการพัฒนาให้กับอาเซียนเพื่อให้ประเทศสมาชิกมีระดับการพัฒนาที่เท่าเทียมกันและเติบโตเป็นประชาคมที่มีความแข็งแกร่งร่วมกัน

กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ