พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนองนำกำลังเข้าควบคุมตัวชาวโรฮิงญาและชาวบังกลาเทศ จำนวน ๒๕๒ คน ที่หลบหนีเข้าเมืองทางทะเลที่อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่ร่วมกับ ทีมสหวิชาชีพเพื่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ รวมถึงให้การช่วยเหลือที่จำเป็น ขณะนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมฯ จังหวัดระนอง บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ (ชาย) จังหวัดระนอง พร้อมด้วยล่าม จำนวน ๓ คน ได้ลงพื้นที่ร่วมกันและเตรียมพร้อม ที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงในการคัดแยก ภายหลังจากการระบุสัญชาติเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพบว่า มีชาวโรฮิงญาและ ชาวบังกลาเทศที่ถูกควบคุมจำนวนเพียง ๒๕๒ คน แบ่งออกเป็นเด็กผู้หญิง ๖ คน เด็กผู้ชาย ๘ คน ผู้หญิง ๒๓ คน และผู้ชาย ๒๑๕ คน แต่เนื่องด้วยมีชาวโรฮิงญาและชาวบังกลาเทศเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีปัญหาในเรื่อง การจัดหาล่ามเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอ รวมทั้งการจัดเตรียมอาหารมุสลิม ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน จากนั้น หากพบว่า มีชาวโรฮิงญาและ ชาวบังกลาเทศที่เข้าข่ายตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะรับผู้เสียหายไว้ดูแลและช่วยเหลือในหน่วยงานในพื้นที่ระหว่างรอการส่งกลับประเทศต่อไป
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีการแชร์ข้อมูลข่าวสารขอความช่วยเหลือในสื่อสังคม ออน์ไลน์ที่มีเด็กทารกวัย ๒ เดือน มีความพิการตั้งแต่เกิด แขนซ้ายด้วนและมือขวาไม่มีนิ้ว อาศัยอยู่กับทวดพิการตาบอด อายุ ๗๖ ปี และมารดาที่ต้องทำงานนอกบ้านเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวที่จังหวัดสมุทรปราการ ตนได้สั่งการให้สำนักงานพัฒนาสังคมฯ จังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในเบื้องต้นให้มอบเงินสงเคราะห์และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ครอบครัว อีกทั้งประสานไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อรักษาพยาบาลเด็กทารกและหญิงชราต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th