นายธีระพงษ์ฯ กล่าวอีกว่า เพื่อให้มาตรการตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมการขนส่งทางบกได้สั่งการให้นายทะเบียน พนักงานตรวจสภาพรถและผู้ตรวจการทุกสำนักงานขนส่งทั่วประเทศเข้มงวด กวดขันการตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนรถที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก หากพบป้ายทะเบียนถูกขูดหรือขัดถูให้สีเจือจางลง ใช้วัสดุอื่นปิดทับหมายเลขทะเบียนรถ หรือพบรถตู้โดยสารสาธารณะไม่ติดเครื่องหมายตรวจจับความเร็วด้วยระบบ RFID หรือมีการขูดลบทำลายเครื่องหมาย RFID ให้แจ้งผู้ประกอบการขนส่ง หรือเจ้าของรถหรือผู้ขับรถดำเนินการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถใหม่หรือแก้ไขให้ถูกต้อง รวมทั้งกำชับให้รถตู้โดยสารสาธารณะต้องเร่งติดเครื่องหมายตรวจจับความเร็วด้วยระบบ RFID ให้ถูกต้องด้วย ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
สำหรับผู้ขับรถโดยสารสาธารณะที่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด หากกระทำผิดครั้งที่ 1 จะถูกลงโทษเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท กระทำผิดครั้งที่ 2 เปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท กระทำผิดครั้งที่ 3 เปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 15 วัน ครั้งที่ 4 เปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 30 วัน และครั้งที่ 5 เปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ
ทั้งนี้ หากผู้โดยสารไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้บริการ หรือพบเห็นรถโดยสารไม่ปลอดภัย คนขับรถไม่อยู่ในสภาพพร้อมทำหน้าที่บนท้องถนนได้อย่างปลอดภัย แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะที่หมายเลขโทรศัพท์ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th