รองโฆษกรัฐบาลเผย ป.ป.ช. แจงสามารถระบายข้าวและยางพาราได้ตามนโยบายของรัฐบาล

ข่าวทั่วไป Tuesday November 18, 2014 16:37 —สำนักโฆษก

วันนี้ (18 ต.ค.57) เวลา 14.50 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมฯ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องการระบายข้าวและการระบายยางพารา ซึ่งการประชุมครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ดำเนินการประสานงานหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจน โดยเรื่องข้าวกรณีที่มีการตั้งคำถามว่าสามารถที่จะระบายข้าวในสต็อกออกไปได้หรือไม่ หรือจะต้องเก็บไว้เป็นของกลางหรือไม่ เพื่อใช้ดำเนินการตรวจสอบในการพิจารณาหาตัวผู้ที่กระทำผิดหรือมีส่วนทุจริตมาลงโทษนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ป.ป.ช. ได้เคยตอบคำถามต่อกรณีดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง ว่า ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของกรมการค้าต่างประเทศ แต่เป็นคำตอบที่ยังไม่ชันเจน จึงได้สอบถามกลับไปที่ ป.ป.ช.อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ ป.ป.ช. ก็ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่า ทาง ป.ป.ช. ให้ความสนใจเฉพาะตัวเลขของข้าวและปริมาณข้าว ไม่ได้สนใจตัวคุณภาพ ฉะนั้นยืนยันได้ว่า ข้าวไม่ใช่ของกลาง ซึ่งการดำเนินการต่อข้าว เพื่อเร่งระบายข้าวออกไปก็ให้ดำเนินการไปตามแนวทางนโยบายที่รัฐบาลกำหนดไว้ เพราะข้าวเป็นสินค้าที่เสื่อมสภาพได้ง่าย อย่างไรก็ตามเมื่อใดที่ ป.ป.ช. เห็นว่าขอให้ยุติในงวดใดเพื่อจะตรวจสอบเพิ่มเติมก็จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อน แต่การขายและระบายข้าวออกไปขอให้ยึดหลักความสุจริต โปร่งใส อย่าให้มีการสมยอมกันในการเสนอราคา และยืนยันว่าบุคคลที่ได้ดำเนินการตามคำแนะนำดังกล่าวของ ป.ป.ช. จะไม่ถูกย้อนดำเนินคดีในภายหลัง

ส่วนที่มีคำถามเรื่องการระบายยางพารา ต่อกรณีองค์การสวนยาง (อสย.) ได้รับเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และซื้อยางมาแล้วสามารถระบายยางในสต็อกออกไปได้หรือไม่นั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับ ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ระบุว่า องค์การสวนยางมีอำนาจในการขายยางพารา โดยหากองค์การสวนยางมีงบประมาณเพียงพอและ ธ.ก.ส.จ่ายเงินให้เรียบร้อยแล้วก็สามารถที่จะขายยางออกไปได้ ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งเรื่องนี้ ทาง ป.ป.ช. ได้แจ้งมาว่าไม่มีสำนวนเรื่องการตรวจสอบยางอยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ช. ดังนั้นสรุปว่า ทั้งสองกรณีอนุมัติให้มีการระบายและจำหน่ายได้ตามนโยบายของรัฐบาล

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ