ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธ์ กล่าวบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำปาวว่า เขื่อนดังกล่าวมีความจุ 1,980 ล้าน ลบ.ม, มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ตอนล่างของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว บริเวณที่ติดแม่น้ำชี พื้นที่ประมาณ 50,000 ไร่ และเพิ่มพื้นที่ชลประทานของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว อีกประมาณ 50,000 ไร่ รวมถึงเป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อช่วยเหลือภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลาง ในกรณีเขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ำน้อย สำหรับการบริหารจัดการน้ำในปี 2557 ในช่วงฤดูฝนส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 305,119 ไร่ แยกเป็นข้าว 300,536 ไร่ บ่อปลา 1,492 ไร่ บ่อกุ้ง 3,065 ไร่ พืชไร่ – พืชผัก 26 ไร่ สามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งหมดไม่มีพื้นที่เสียหาย ทั้งนี้ ในช่วงฤดูแล้งจะเริ่มส่งน้ำตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.57 ไปจนถึง 30 เม.ย.58 ให้พื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง จำนวน 250,000 ไร่ ได้แก่ ข้าว 245,566 ไร่ บ่อปลา 1,303 ไร่ และบ่อกุ้ง 3,131 ไร่
ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรีกล่าวรู้สึกสบายใจที่ชาวจังหวัดกาฬสินธ์ไม่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องน้ำ มีน้ำใช้อุปโภค-บริโภค และทำการเกษตรเพียงพอตลอดทั้งปี โดยรัฐบาลจะบูรณาการเรื่องน้ำอย่างเป็นระบบทั้งประเทศภายใต้งบประมาณที่จำกัด โดยจะใช้งบประมาณค้างจ่ายประจำปี 2557 มาดำเนินโครงการเร่งด่วนเกี่ยวกับน้ำ และได้ตั้งงบประมาณประจำปี 2558 ไว้ดำเนินโครงการเกี่ยวกับน้ำอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว ภายใต้การทำงานที่โปร่งใส ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณเพื่อซ่อมคลองชลประทานที่เสียหายจากอุทกภัยเมื่อปี 2554 เพื่อซ่อมคลองชลประทานให้สามารถกักเก็บน้ำ และส่งน้ำให้มีประสิทธิภาพ จำนวน 100 กว่าล้านบาท โดยเน้นย้ำให้ทำอย่างโปร่งใส และให้ประชาชนมีส่วนร่วม
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th