ดร.อัจฉรา วงศ์แสงจันทร์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับประเทศไทยที่กรมการข้าวได้รับการคัดเลือกผลงานและได้รับรางวัลผลงานความสำเร็จในการนำพลังงานปรมาณูมาใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงพันธุ์ข้าว เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปี ความร่วมมือระหว่างทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) กับองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ซึ่งการประกวดในครั้งนี้มีหลายองค์กรทั่วโลกเข้าร่วมประกวด โดยมีผลงานผ่านการคัดเลือกและได้รับรางวัลเพียง 12 ประเทศ
“เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับประเทศไทยที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ซึ่งในโอกาสสำคัญนี้พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนาสาธารณรัฐออสเตรีย ทรงเป็นผู้แทนประเทศไทยรับเกียรติบัตรรางวัล Achievement Awards in Plant Mulation Breeding จากรองผู้อำนวยการใหญ่ของ IAEA ในการประชุมใหญ่สามัญของ IAEA สมัยที่ 58 เมื่อเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย”
ปส.เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศ ต้องอยากแสดงความยินดีกับกรมการข้าว โดยเฉพาะ ดร.กาญจนา กล้าแข็ง เจ้าของงานวิจัยที่ได้สร้างผลงานความสำเร็จที่โดดเด่นในระดับนานาชาติ และเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนากิจการด้านการเกษตรในอนาคต รวมทั้ง สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองแห่งเกษตรกรรมไว้ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ยินดีให้การส่งเสริมและความร่วมมือเชิงวิชาการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำพลังงานปรมาณูไปใช้ในทางสันติที่ก่อให้เกิกประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต
การนำพลังงานปรมาณูมาใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่คว้ารางวัลในครั้งนี้ เป็นการใช้ประโยชน์จากรังสีแกมมาในการชักนำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของพืช ปกติในธรรมชาติพืชจะมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมภายในตัวเองอยู่แล้ว รังสีเพียงช่วยให้มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น และเร็วขึ้นเพื่อประโยชน์ในการคัดเลือกให้ได้พันธุ์ใหม่ที่ดีขึ้น แปลกขึ้น โดยลักษณธที่ดีของพันธุ์เดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เขียนข่าวโดย : กลุ่มเผยแพร่พลังงานปรมาณูเพื่อสันติ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
โทร 02 596 7600 ต่อ 1123-4
ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2557
เผยแพร่ข่าวโดย : นางสาวชลธิชา แสงเทียนสุวรรณ
ถ่ายภาพและวีดิโอ : นางสาวศิริลักษณ์ สิกขะบูรณะ, นายไววิทย์ ยอดประสิทธิ์
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร 02 333 3731-2
ที่มา: http://www.thaigov.go.th