จากการหารือ พลเอก สุรศักดิ์ฯ กล่าวว่า ประเทศสิงคโปร์มีการจัดระเบียบแรงงานต่างชาติที่มีแบบแผนและมีความเรียบร้อยที่เป็นแบบอย่างที่ดี รัฐบาลมีนโยบายในการจัดระบบแรงงานต่างด้าว กระทรวงแรงงานเปิดให้มีการจดทะเบียนขอใบอนุญาตทำงานชั่วคราวของแรงงานต่างด้าว ปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมาขอขึ้นทะเบียน ๑.๕ ล้านคน และเป็นแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายเดิม ๑.๗ ล้านคน ซึ่งในเรื่องนี้จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นเรียบร้อย อีกทั้งรัฐบาลยังมีแนวคิดเขตเศรษฐกิจพิเศษใน ๑๒ พื้นที่ โดยระยะแรกเริ่มใน ๕ พื้นที่ชายแดน ได้แก่ แม่สอด อรัญประเทศ ตราด มุกดาหาร สะเดา (ด่านศุลกากรสะเดาและปาดังเบซาร์) ก่อนในปีนี้ ซึ่งกระทรวงแรงงานจะรับผิดชอบเรื่องการบริหารแรงงานในพื้นที่ โดยวางกรอบนำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านแบบเช้าไปเย็นกลับหรือตามฤดูกาล ซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่เห็นชัดเจนในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมองไปที่เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมเป็นหลัก
สำหรับเรื่องของพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ขณะนี้นักลงทุนสิงคโปร์มีความกังวลว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนั้น เบื้องต้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานพร้อมประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อความชัดเจนในพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวต่อไป
นอกจากนี้ พลเอก สุรศักดิ์ฯ ได้หารือเพิ่มเติมกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เรื่องการนำคณะของกระทรวงแรงงานเข้าไปศึกษาดูงานด้านผู้สูงอายุในประเทศสิงคโปร์ ที่ทางสิงคโปร์มีนโยบายส่งเสริมให้สถานประกอบการในประเทศขยายอายุจ้างงานหลังเกษียณอายุเป็น ๖๗ ปี ซึ่งในเรื่องดังกล่าวเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย พร้อมให้ความร่วมมือและประสานไปยังหน่วยงานในประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th