วันนี้ (20 พ.ย.57) เวลา 19.00 น. ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปีพุทธศักราช 2557 (ครบรอบ 108 ปี วันกองทัพเรือ) โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก พลอากาศเอก ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายทหารชั้นนายพลของกองทัพเรือที่เกษียณอายุราชการ นายทหารชั้นนายพลของกองทัพเรือ ผู้แทนเหล่าทัพ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนกรมราชองครักษ์ ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย เอกอัครราชทูตที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย จำนวน 38 ประเทศ เข้าร่วมงาน ซึ่งมี พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ
พลเรือเอก ธาดา ดิษฐบรรจง อดีตผู้บัญชาการทหารเรืออาวุโส กล่าวเชิญชวนดื่มถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือกล่าวต้อนรับผู้มาร่วมงาน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวอวยพรเนื่องในวันกองทัพเรือ ว่า มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันกองทัพเรือ และขอบคุณข้าราชการกองทัพเรือทุกคนที่ให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่นและเปี่ยมด้วยมิตรไมตรี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือมีภารกิจในการป้องกัน รักษาอธิปไตย และความมั่นคงของชาติ ซึ่งในปัจจุบันมีภารกิจเพิ่มขึ้นในการคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ และมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยขอขอบคุณและชื่นชมการทำหน้าที่ของทหารเรือทุกคน ที่ได้ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมเชื่อมั่นว่าจิตวิญญาณในการเป็นทหารของชาติ จะเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนทำงานต่อไปอย่างเข้มแข็ง ไม่ท้อถอย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะบริหารราชการแผ่นดินเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนและพัฒนาประเทศ โดยการนำยุทธศาสตร์ว่าด้วยการเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 มาเป็นแนวคิดและหลักสำคัญในการทำงาน ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกองทัพเรือ และขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการทหารเรือทุกคนในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างให้กองทัพเรือเป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ ให้มีความเจริญก้าวหน้า มีเกียรติและศักดิ์ศรีทัดเทียมกับกองทัพเรือของนานาอารยประเทศ
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล ตลอดจนพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อีกทั้งเดชะพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้โปรดดลบันดาลพระราชทานพรให้ข้าราชการกองทัพเรือทุกคนและครอบครัว ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีกำลังกาย กำลังใจ และกำลังสติปัญญาที่เข้มแข็ง เป็นกำลังสำคัญของชาติในการปฏิบัติภารกิจเพื่อป้องกันและพัฒนาประเทศให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พร้อมกับกล่าวเชิญชวนผู้มีเกียรติทุกคนร่วมกันดื่มอวยพรให้กองทัพเรือ ให้ทหารเรือทุกคนพร้อมทั้งครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญ และให้กองทัพเรือมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th