นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องได้รับการป้องกันและแก้ไขโดยการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด โดยในระดับชาติได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) ขึ้น โดยมี พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการหรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.) โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้จัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย” (ศอ.ปส.มท.) เพื่อเป็นศูนย์กลางอำนวยการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดของกระทรวงมหาดไทย และนำนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ
ดังนั้น เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด และให้บุคลากรในสังกัดกระทรวงมหาดไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดในปี 2558 กระทรวงมหาดไทยจึงได้กำหนดจัดการประชุมมอบนโยบายตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดปี 2558 ขึ้น โดยกำหนดจัดการประชุมฯ ในพื้นที่ ปปส. ภาค 1 - 9 รวม 9 ครั้ง ระหว่างวันที่ 18 พฤศจิกายน - 18 ธันวาคม 2557 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่รับผิดชอบงานยาเสพติด ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด พัฒนาการจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ฝ่ายทหาร) ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัด ผู้แทนสาธารณสุขจังหวัด ผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด แรงงานจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ป้องกันจังหวัด เจ้าหน้าที่ ศอ.ปส.จ. จังหวัดละ 1 คน นายกเทศมนตรี และนายอำเภอ ทุกอำเภอ ทั้งนี้ ได้กำหนดจัดการประชุมฯ ครั้งแรกในวันนี้ (18 พ.ย.57) ในพื้นที่ ปปส. ภาค 2 ประกอบด้วยกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง และจังหวัดสระแก้ว รวมจำนวน 238 คน จัดขึ้น ณ โรงแรมเวลคัมเวิลด์บีชรีสอร์ท แอนด์ สปา พัทยา จังหวัดชลบุรี
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากที่สุดตั้งแต่ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เราจะใช้กลไกในพื้นที่และอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีทั้งด้านป้องกัน ปราบปราม การบำบัดรักษา และติดตามความช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัด ต้องให้เห็นผลว่าในหนึ่งปีลดลงเท่าไร ในปีนี้นโยบาย การแก้ไขปัญหายาเสพติดจะไม่เน้นที่ปริมาณ แต่มุ่งเน้นที่คุณภาพของการดำเนินงาน เริ่มจากหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีสถานการณ์ปัญหายาเสพติดรุนแรง 7,976 แห่ง จะดำเนินมาตรการเชิงรุก ปิดล้อม ตรวจค้น ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดด้านการบำบัดรักษาก็เน้นไปที่ระบบสมัครใจ หรือค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ได้มาตรฐานตามหลักวิชาการ ซึ่ง สำนักงาน ปปส. กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ หน่วยงานภาคีจัดทำหลักสูตรที่ได้มาตรฐานเพื่อให้จังหวัดดำเนินการต่อไป โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้จังหวัดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และภายหลังจากที่บำบัดเสร็จเรียบร้อยแล้วจะต้องมีการติดตามผู้ผ่านการบำบัดอย่างต่อเนื่องด้วย โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน อสม. ติดตามดูแลช่วยเหลือ ทั้งเรื่องการให้การศึกษา ฝึกอาชีพและหางานให้ทำ ซึ่งการติดตามจะดำเนินการอย่างมีเมตตาธรรม “แบบพ่อดูแลลูก” ไม่ใช่การจับผิด ส่วนด้านการป้องกันจะต้องดำเนินการไม่ให้เกิดผู้เสพรายใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถ้าระบบป้องกันดีจะไม่มีผู้เสพรายใหม่ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองจะมีโครงการฝึกเยาวชน อส. ต้านยาเสพติด เพื่อเปลี่ยนกลุ่มเสี่ยงให้เป็นพลังร่วมต่อต้านยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th