ร้อยตรี อนุสสรณ์ นาคศรีชุ่ม รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หน่วยธุรกิจบริการการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณี ที่มีคลิปเผยแพร่ในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับพนักงานลำเลียงสัมภาระของเที่ยวบินหนึ่งของการบินไทย ซึ่งใช้วิธีการลำเลียงสัมภาระที่ไม่เหมาะสม จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เป็นการลำเลียงสัมภาระของเที่ยวบิน ทีจี313 เส้นทางกรุงเทพฯ – กัลกัตตา วันที่ 16 พฤศจิกายน 2557 บริเวณสะพานเทียบเครื่องบิน ซึ่งไม่ใช่บริเวณจุดคัดแยกหรือลำเลียงสัมภาระ (Sorting Area) สาเหตุเนื่องจากมีผู้โดยสารชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งนำสัมภาระติดตัว (Carry On) ที่มีน้ำหนักเกินพิกัด จำนวน 93 ชิ้น แต่ละชิ้นมีน้ำหนักเกิน 20 กิโลกรัมขึ้นไป มาเช็ค Boarding Passใกล้เวลาที่เครื่องบินจะออกทำการบิน เพื่อหลีกเลี่ยงการชำระค่าน้ำหนักเกิน ซึ่งสัมภาระเหล่านี้บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง เนื่องจากมีน้ำหนักเกินจากที่บริษัทฯ กำหนด ทำให้พนักงานของบริษัทฯ ที่ปฏิบัติงานประจำประตูขึ้นเครื่องบิน (Boarding Gate) จำเป็นต้องนำสัมภาระทั้ง 93 ชิ้น ส่งไปโหลดไว้ใต้ท้องเครื่องบินอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทันเวลาที่เครื่องบินจะออกเดินทาง แต่เนื่องจากสัมภาระมีน้ำหนักมาก มีลักษณะกลม บางชิ้นไม่มีหูหิ้ว การลำเลียงลงทางบันไดที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการลำเลียงจะเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสัมภาระส่วนใหญ่เป็นห่อผ้าที่หุ้มด้วยพลาสติก และกระเป๋าผ้าที่ภายในบรรจุผ้า มิใช่เป็นกระเป๋าทรงแข็งที่อาจแตกหักเสียหายได้ และเห็นว่าการลำเลียงสัมภาระดังกล่าวไม่ทำให้สัมภาระเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ภาพการลำเลียงสัมภาระดังกล่าวอาจดูไม่เหมาะสม แต่ยืนยันว่าไม่ทำให้สัมภาระของผู้โดยสารเสียหาย อีกทั้งการบินไทยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกท่าน และต้องการให้ผู้โดยสารออกเดินทาง และถึงที่หมายได้ตรงเวลา และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก บริษัทฯ ได้ว่ากล่าวตักเตือนผู้ปฏิบัติงาน และย้ำเตือนให้ปฏิบัติงานตามขั้นตอน และระมัดระวังทรัพย์สินของผู้โดยสาร
ทั้งนี้ บริษัทฯ อนุญาตให้ผู้โดยสารนำสัมภาระติดตัวได้ (Carry On) ท่านละ 1 ชิ้น มีขนาดไม่เกิน 45x56x25 ซ.ม. และมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
ที่มา : บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
เสนอโดย : กองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
ที่มา: http://www.thaigov.go.th