นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณสำหรับการต้อนรับอันอบอุ่น ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์ ไทย-ลาวที่มีความใกล้ชิดในทุก ๆ ด้านบนพื้นฐานของสังคมวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน และยินดีร่วมกันผลักดันให้ทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนเพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างเท่าเทียม (Partnership for Equitable and Shared Prosperity)
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยมีนโยบายผลักดันการพัฒนาพื้นที่ชายแดนแบบครบวงจร และได้เห็นชอบให้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นโครงการนำร่องที่ จ.มุกดาหาร ซึ่งจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทั้งการค้าและอุตสาหกรรม รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันเพื่อประสานงานการเชื่อมโยงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่ จ.มุกดาหารกับเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน - เซโน เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาแบบคู่ขนาน
ไทยมีนโยบายสนับสนุนลาวให้เป็นจุดเชื่อมโยง (land link) เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในหลักการที่จะขยายเส้นทาง EWEC ให้ครอบคลุมเส้นทาง R8 และ R12 และจะเร่งรัดการดำเนินการเพื่อให้การขยายเส้นทางดังกล่าวมีผลในทางปฏิบัติโดยเร็ว
ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีหวังให้มีการส่งเสริมให้มีการจัดส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ joint package ที่เชื่อมโยงสถานที่ของทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน เนื่องจากลาวมีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามมากมาย ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมหารือกับฝ่ายลาวเพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งที่เกี่ยวข้อง เช่น สนามบิน ยานพาหนะ ถนน รวมทั้งการขยายเส้นทางการบินและเส้นทางเดินรถประจำทาง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ของลาว
ด้านพลังงาน ไทยพร้อมที่จะรับซื้อพลังงานไฟฟ้าจากลาวเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาวมากขึ้น และยินดีสนับสนุนโครงการนำร่องสำหรับการศึกษาในเรื่องการซื้อขายไฟฟ้าข้ามแดนระหว่าง ลาว - ไทย - มาเลเซีย - สิงคโปร์ (LTMS PIP) เพื่อศึกษาถึงศักยภาพ และพิจารณาความเป็นไปได้ในการซื้อขายไฟฟ้าจากลาวไปยังสิงคโปร์ ผ่านโครงข่ายที่มีอยู่เดิมของไทยและมาเลเซีย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเชิญนายกรัฐมนตรีลาวเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุม GMS ระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีในการหารือเกี่ยวกับการสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
หลังจากนั้น เวลา 14.35 น. นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีสปป.ลาว ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ได้แก่ 1. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการพัฒนาโรงพยาบาลแขวงบ่อแก้ว ระยะที่สอง 2. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม 3. สัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินโครงการก่อสร้างถนนจากเมืองหงสา - บ้านเชียงแมน (เมืองจอมเพชร แขวงหลวงพระบาง)
ที่มา: http://www.thaigov.go.th