รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ทุกส่วนราชการรณรงค์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้ฉลองกับครอบครัวและมีความสุขอย่างแท้จริงในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ โดยเฉพาะให้เน้นมาตรการที่จะสามารถดำเนินการและดูแลประชาชนได้จริง เช่น การอำนวยความสะดวกตามจุดต่าง ๆ ทั้ง จุดพักรถ จุดจอดรถ ตลอดจนการจราจรในแต่ละเส้นทาง เป็นต้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนรี ได้สั่งการให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งได้มีการรวบรวมผลงานไว้แล้ว ส่งข้อมูลและผลงานดังกล่าวเพื่อสรุปรวมเล่มเป็นเอกสาร ก่อนจัดแถลงข่าวให้ประชาชนได้รับทราบเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนต่อไป
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยรัฐบาลจะไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร เพราะมีความตั้งใจที่จะทำในเรื่องที่ดี และการปฏิรูป รวมไปถึงการลดความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นจึงขอความเห็นใจและความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนว่า เมื่อประชาชนยอมรับรัฐบาลและคสช. โดยการให้ความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด และไม่ได้มีการแสดงซึ่งเป็นในลักษณะของการต่อต้าน การแสดงความคิดเห็นต่างคงจะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เพราะฉะเมื่อประชาชนเห็นชอบกับรัฐบาลและคสช. ก็ขอให้สนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาลในการทำงานต่อไปด้วย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ได้มีการพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ในกระบวนการที่เกี่ยวกับการพิจารณากฎหมายซึ่งเป็นไปด้วยความรวดเร็ว รวมทั้งมอบหมายให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม ไปจัดลำดับความเร่งด่วนในข้อกฎหมายหรือร่างกฎหมายของแต่ละกระทรวงให้ชัดเจน เพื่อให้กฎหมายที่จะออกมาเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลได้กำหนดไว้
นอกจากนั้น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการกำหนดจะให้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง ครม.กับ คสช. ครั้งที่ 3 ในวันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2557 ทั้งนี้อาจจะต้องมีการประชุม คสช.ก่อน เมื่อได้ข้อสรุปของ คสช.แล้วจึงจะนำไปหารือร่วมกับรัฐบาลอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการประชุมดังกล่าวจะเป็นการหารือในวันเดียวกันหรือคนละวันนั้น หากได้ข้อยุติที่ชัดเจนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงข้อมูลน้ำทั้งประเทศของกรมทรัพยากรน้ำว่า เป็นข้อมูลที่ดี แต่ขอให้มีการนำข้อมูลดังกล่าวเชื่อมโยงกับส่วนราชการอื่น ๆ ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาของประชาชนและการบริหารราชการในภาพรวม ทั้งนี้ข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ของทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง มอบหมายให้กระเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไปพิจารณาว่าจะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวอย่างไร เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ในข้อมูลเหล่านั้นร่วมกันต่อไป
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุมรับทราบว่า พรุ่งนี้ (3ธ.ค.57) เวลา 16.00 น. จะมีการเชิญบรรณาธิการระดับผู้บริหารของสื่อมวลต่าง ๆ จำนวนประมาณ 16 คน เพื่อไปพบปะพูดคุยกันที่บ้านเกษะโกมล โดยมีนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องร่วมพูดคุยครั้งนี้ด้วย เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจและบอกเล่าให้สื่อมวลชนระดับผู้บริหารได้รับทราบว่าปัจจุบันรัฐบาลได้ดำเนินการอะไรบ้าง เพราะนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าบ้านเมืองจะไปได้สื่อมวลชนมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการที่จะชี้แจงทำความเข้าใจให้สังคมได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รวมถึงสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อจะได้ช่วยกันประคับประคองให้สถานการณ์ทั้งหลายดำเนินไปได้ และช่วยสร้างสรรค์บรรยากาศที่ดีในการที่จะปฏิรูปบ้านเมืองและเดินไปสู่ประชาธิปไตยตามที่ได้กำหนดไว้
ขณะที่ พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวฝากถึงเรื่องที่กรณีคณะหรือคณะติดตามนายกรัฐมนตรี ที่จะไปหารือร่วมกับต่างประเทศนั้น ปัจจุบันภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศในแถบยุโรป ดีขึ้นเป็นลำดับจากที่ได้มีการพบปะพูดคุยกับหลายฝ่าย อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านั้นยังไม่เพียงพอ เพราะสิ่งที่จะทำให้เกิดความมั่นใจกับทุกฝ่ายมากขึ้นคือเรื่องที่ได้มีการหารือร่วมกันแล้วได้มีการนำมาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ดังนั้นทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องเมื่อรับเรื่องมาแล้วจะต้องไปดำเนินการต่อ โดยต้องมีการส่งข้อมูลชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่ได้ดำเนินการแล้ว รวมถึงเรื่องที่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะอะไร ให้กับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้การประชุมร่วมกับต่างประเทศในครั้งต่อไป สามารถที่จะชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ให้ต่างประเทศได้เข้าใจอย่างชัดเจน
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th