ทำเนียบรัฐบาล--22 ส.ค.--บิสนิวส์
วันนี้เมื่อเวลา 09.00 น. นายวิลเลียม เอชอิโต เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ปรจำประเทศไทย ได้นำนายฟลอยด์ เดวิดสัน สเปนซ์ (Floyd Davidson Spence) ประธานคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงแห่งชาติสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และคณะรวม 8 คน เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการสนทนาได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีในการเดินทางมาเยือนของคณะกรรมาธิการฯ พร้อมกล่าวว่าปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ได้ดำเนินไปอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและการปราบปรามยาเสพติด ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ส่งผู้ต้องหาคดียาเสพติดข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯ แล้วจำนวน 3 ราย
คณะผู้แทนกรรมาธิการได้กล่าวแสดงความชื่นชมในการดำเนินการของฝ่ายไทยและแจ้งว่าการเดินทางมาครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อมารับทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยและในภูมิภาค และยินดีที่ได้รับทราบถึงความก้าวหน้าในการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะในด้านการปราบปรามยาเสพติด พร้อมกับได้กล่าวสอบถามนายกรัฐมนตรีในเรื่อง สถานการณ์ในกัมพูชา การขอรับความช่วยเหลือทางด้านการเงินของไทยจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของไทย รวมถึงบทบาทของประเทศจีนในภูมิภาคเอเซียด้วย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งให้ทราบถึงปัญหาในกัมพูชาขณะนี้ว่า ภายหลังจากที่ทหารฝ่ายรัฐบาลสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ในฐานที่มั่นของฝ่ายสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ได้แล้วเมื่อวันก่อน ได้มีการหลั่งไหลของผู้อพยพเข้ามาในเขตแดนไทย แต่เชื่อว่าในไม่ช้าสถานการณ์ต่าง ๆ จะสามารถคลื่คลายไปได้ และเมื่อสถานการณ์ในกัมพูชามีความสงบลง เชื่อว่าผู้อพยพชาวกัมพูชา ก็จะเดินทางกลับไปยังถิ่นฐานเดิม ทั้งนี้ ประเทศกัมพูชาในขณะนี้ ยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัว และเป็นแหล่งทุนและการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคตต่อไปได้
สำหรับการขอความช่วยเหลือจาก IMF นั้น จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติต่อประเทศไทยมากขึ้น ในส่วนของร่างรัฐธรรมนูญนั้น โดยส่วนตัวแล้วนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่าอยากเห็นสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ทราบดีว่าประชาชนมีความประสงค์ที่จะเห็นสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นในสังคมไทย เพราะที่ผ่านมามีคำวิจารณ์เกี่ยวกับนักการเมืองในทางลบ และรวมถึงการกล่าวหาในเรื่องของธุรกิจการเมือง และการใช้เงินจำนวนมาก อนึ่งในเรื่องของแนวโน้มสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคเอเซีย และบทบาทของจีน ซึ่งคาดว่าจะเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดประเทศหนึ่งในเอเซียในศตวรรษหน้านั้น นายกรัฐมนตรีเห็นว่าไม่น่าจะส่งผลต่อความมั่นคงในเอเซีย รวมถึงจะไม่ส่งผลต่อการเผชิญหน้ากับประเทศไต้หวันด้วย เนื่องจากปัจจุบันทุกประเทศต้องการพัฒนาเศรษฐกิจ และต้องการที่จะเห็นความสงบสุขของภูมิภาคมากกว่าความขัดแย้ง ทั้งนี้ปัจจุบัน ประเทศจีนเองก็ยังมีปัญหาทางเศรษฐกิจที่ต้องเร่งรีบแก้ไขเช่นกัน--จบ--
วันนี้เมื่อเวลา 09.00 น. นายวิลเลียม เอชอิโต เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ปรจำประเทศไทย ได้นำนายฟลอยด์ เดวิดสัน สเปนซ์ (Floyd Davidson Spence) ประธานคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงแห่งชาติสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และคณะรวม 8 คน เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการสนทนาได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีในการเดินทางมาเยือนของคณะกรรมาธิการฯ พร้อมกล่าวว่าปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ได้ดำเนินไปอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและการปราบปรามยาเสพติด ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ส่งผู้ต้องหาคดียาเสพติดข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯ แล้วจำนวน 3 ราย
คณะผู้แทนกรรมาธิการได้กล่าวแสดงความชื่นชมในการดำเนินการของฝ่ายไทยและแจ้งว่าการเดินทางมาครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อมารับทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยและในภูมิภาค และยินดีที่ได้รับทราบถึงความก้าวหน้าในการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะในด้านการปราบปรามยาเสพติด พร้อมกับได้กล่าวสอบถามนายกรัฐมนตรีในเรื่อง สถานการณ์ในกัมพูชา การขอรับความช่วยเหลือทางด้านการเงินของไทยจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของไทย รวมถึงบทบาทของประเทศจีนในภูมิภาคเอเซียด้วย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งให้ทราบถึงปัญหาในกัมพูชาขณะนี้ว่า ภายหลังจากที่ทหารฝ่ายรัฐบาลสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ในฐานที่มั่นของฝ่ายสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ได้แล้วเมื่อวันก่อน ได้มีการหลั่งไหลของผู้อพยพเข้ามาในเขตแดนไทย แต่เชื่อว่าในไม่ช้าสถานการณ์ต่าง ๆ จะสามารถคลื่คลายไปได้ และเมื่อสถานการณ์ในกัมพูชามีความสงบลง เชื่อว่าผู้อพยพชาวกัมพูชา ก็จะเดินทางกลับไปยังถิ่นฐานเดิม ทั้งนี้ ประเทศกัมพูชาในขณะนี้ ยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัว และเป็นแหล่งทุนและการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคตต่อไปได้
สำหรับการขอความช่วยเหลือจาก IMF นั้น จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติต่อประเทศไทยมากขึ้น ในส่วนของร่างรัฐธรรมนูญนั้น โดยส่วนตัวแล้วนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่าอยากเห็นสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ทราบดีว่าประชาชนมีความประสงค์ที่จะเห็นสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นในสังคมไทย เพราะที่ผ่านมามีคำวิจารณ์เกี่ยวกับนักการเมืองในทางลบ และรวมถึงการกล่าวหาในเรื่องของธุรกิจการเมือง และการใช้เงินจำนวนมาก อนึ่งในเรื่องของแนวโน้มสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคเอเซีย และบทบาทของจีน ซึ่งคาดว่าจะเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดประเทศหนึ่งในเอเซียในศตวรรษหน้านั้น นายกรัฐมนตรีเห็นว่าไม่น่าจะส่งผลต่อความมั่นคงในเอเซีย รวมถึงจะไม่ส่งผลต่อการเผชิญหน้ากับประเทศไต้หวันด้วย เนื่องจากปัจจุบันทุกประเทศต้องการพัฒนาเศรษฐกิจ และต้องการที่จะเห็นความสงบสุขของภูมิภาคมากกว่าความขัดแย้ง ทั้งนี้ปัจจุบัน ประเทศจีนเองก็ยังมีปัญหาทางเศรษฐกิจที่ต้องเร่งรีบแก้ไขเช่นกัน--จบ--