พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีหญิงพิการ ๔ จิตใจ อายุ ๔๓ ปี อาศัยอยู่ลำพังกับลูกชายวัย ๓ ขวบ มีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนพิการเพียงเดือนละ ๕๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของสองคนแม่ลูก และกรณีเด็กชายอายุ ๖ปี ป่วยเป็นมะเร็งที่หัวเข่าข้างซ้าย ซึ่งมะเร็งได้กินกระดูกและเส้นเลือดไปเป็นจำนวนมาก อาศัยอยู่กับยาย มีฐานะยากจน ไม่มีเงินไปรักษาต่อเนื่อง ที่จังหวัดอ่างทอง โดยทั้งสองกรณีนี้ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง (พมจ.อ่างทอง)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเร่งให้ความช่วยเหลือในเบื้องตน รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วยทั้ง ๒ คน อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตนยังได้สั่งการให้และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร (พมจ.ชุมพร) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งช่วยเหลือสามีอายุ ๔๓ ปี และภรรยาอายุ ๔๙ ปี ซึ่งป่วยพิการทั้งคู่ โดยฝ่ายหญิงพิการขาซ้าย ส่วนฝ่ายชายเป็นเจ้าชายนิทรา ฟื้นขึ้นมายังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนพิการเท่านั้น ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการฝึกอาชีพให้ผู้พิการ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้ในระยะยาวต่อไป
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากกรณีเด็กชายอายุ ๑๔ ปี ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง ๓ คน อายุ ๗ ปี ๘ ปี และ ๙ ปี ที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งกรณีดังกล่าว ตนมีความห่วงใยเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้กระทำความผิดและผู้เสียหายเป็นเด็กทั้งหมด โดยขอให้ผู้ปกครองอบรมสั่งสอนและดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเด็กในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก และตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว (พมจ.สระแก้ว)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงทั้ง ๓ คน พร้อมทั้งดูแลเยียวยาสภาพจิตเด็กในระยะยาว สำหรับกรณีหญิงสาวอายุ ๒๒ ปี ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน ถูกคนร้ายใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ แล้วฉุดไปข่มขืน มัดมือมัดเท้าทิ้งไว้กลางป่าแล้วฉกทรัพย์สินติดตัวไปจนหมด ที่จังหวัดลพบุรี และกรณีนักศึกษาสาวอายุ ๑๖ปี ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน ถูกคนร้ายจี้ขึ้นรถพาไปข่มขืนในป่าละเมาะข้างทาง ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งทั้งสองกรณี ตนได้สั่งการให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลพบุรี (พมจ.ลพบุรี) และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี (พมจ.ชลบุรี)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย พร้อมทั้งดูแลสภาพจิตใจผู้เสียหายอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติในสังคมต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th